
อุตสาหกรรมเหมืองแร่กำลังเดินหน้าสู่อนาคตเหมืองแร่ปลอดคาร์บอนด้วยการเปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้าขนาด 240 ตัน Hitachi EH4000AC-3 ที่พัฒนาโดยความร่วมมือระหว่าง Hitachi Construction Machinery และ ABB Traction
โดยรถต้นแบบ Hitachi EH4000AC-3 พลังงานไฟฟ้าถูกดัดแปลงจากรุ่นดีเซลเดิม ซึ่งเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลเป็นระบบแบตเตอรี่และระบบชาร์จไฟฟ้าผ่านสายไฟเหนือตัวรถ ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาวะหนักระดับเหมืองแร่ ในราคา 12.5 ล้านบาทต่อคัน
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากแรงผลักดันของความต้องการแร่ธาตุสำหรับแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะลิเธียมและนิกเกิล จนนำไปสู่การพลิกโฉมอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีที่ลดการปล่อยมลพิษลงอย่างมีนัยสำคัญ
รถบรรทุกต้นแบบคันแรกของโครงการนี้สร้างเสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านมา และถูกส่งไปที่เหมืองแร่ คานซานชิ (Kansanshi) ประเทศแซมเบีย เพื่อทดสอบการใช้งานในช่วงกลางปี 2024 และในขณะนี้รถบรรทุกต้นแบบคันแรก กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบขั้นตอนสุดท้าย คาดว่าจะเสร็จสิ้นการทดสอบในช่วงกลางปี 2025 โดยโครงการนี้นับเป็นการนำร่องครั้งแรกของรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ดำเนินการโดยผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิม (OEM) ในสภาพแวดล้อมเหมืองแร่จริง
ฟาเบียนา คาวัลกันเต (Fabiana Cavalcante) ผู้อำนวยการฝ่าย Mobile e-Power ของ ABB กล่าวว่าการพัฒนาในครั้งนี้ไม่เพียงเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งในเหมืองให้เป็นพลังงานไฟฟ้า แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างมาก
สรุปข่าว
อุตสาหกรรมเหมืองแร่กำลังเดินหน้าสู่อนาคตเหมืองแร่ปลอดคาร์บอนด้วยการเปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้าขนาด 240 ตัน Hitachi EH4000AC-3 ที่พัฒนาโดยความร่วมมือระหว่าง Hitachi Construction Machinery และ ABB Traction
โดยรถต้นแบบ Hitachi EH4000AC-3 พลังงานไฟฟ้าถูกดัดแปลงจากรุ่นดีเซลเดิม ซึ่งเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลเป็นระบบแบตเตอรี่และระบบชาร์จไฟฟ้าผ่านสายไฟเหนือตัวรถ ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาวะหนักระดับเหมืองแร่ ในราคา 12.5 ล้านบาทต่อคัน
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นจากแรงผลักดันของความต้องการแร่ธาตุสำหรับแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะลิเธียมและนิกเกิล จนนำไปสู่การพลิกโฉมอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีที่ลดการปล่อยมลพิษลงอย่างมีนัยสำคัญ
รถบรรทุกต้นแบบคันแรกของโครงการนี้สร้างเสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านมา และถูกส่งไปที่เหมืองแร่ คานซานชิ (Kansanshi) ประเทศแซมเบีย เพื่อทดสอบการใช้งานในช่วงกลางปี 2024 และในขณะนี้รถบรรทุกต้นแบบคันแรก กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบขั้นตอนสุดท้าย คาดว่าจะเสร็จสิ้นการทดสอบในช่วงกลางปี 2025 โดยโครงการนี้นับเป็นการนำร่องครั้งแรกของรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ดำเนินการโดยผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิม (OEM) ในสภาพแวดล้อมเหมืองแร่จริง
ฟาเบียนา คาวัลกันเต (Fabiana Cavalcante) ผู้อำนวยการฝ่าย Mobile e-Power ของ ABB กล่าวว่าการพัฒนาในครั้งนี้ไม่เพียงเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งในเหมืองให้เป็นพลังงานไฟฟ้า แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างมาก
นอกจากตัวรถแล้ว ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้ายังถูกออกแบบอย่างชาญฉลาดด้วยโครงสร้าง 3 ระบบ ได้แก่ แบตเตอรี่ความจุสูงสำหรับการใช้งานพื้นราบ, สายส่งไฟเหนือศีรษะที่เชื่อมต่อได้ในระหว่างการไต่เขา และระบบเบรกสร้างพลังงานคืนเมื่อวิ่งลงเขา โดยทั้งหมดช่วยให้รถบรรทุกสามารถทำงานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องหยุดชาร์จ
ความก้าวหน้าดังกล่าวเป็นหัวข้อถกเถียงสำคัญในงาน Electric Mine Conference ที่ประเทศชิลีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีตัวแทนจาก ABB, Hitachi, Komatsu และ Sumitomo ร่วมแลกเปลี่ยนแผนการพัฒนา โดยมุ่งเน้นที่การลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลในอุตสาหกรรมเหมืองทั่วโลก
ตามการประเมินของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ความต้องการแร่ธาตุสำหรับแบตเตอรี่จะเพิ่มขึ้นมากถึง 30 เท่า ภายในปี 2583 โดยเฉพาะลิเธียมและนิกเกิลที่อาจโตถึง 40 เท่า ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลกลับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปี การเปลี่ยนรถบรรทุกดีเซลรุ่น EH4000AC-3 ขนาด 240 ตัน 2,500 แรงม้า ของบริษัท Hitachi ให้กลายเป็นยานยนต์ไฟฟ้าเต็มระบบ จึงเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ลดคาร์บอนที่จับต้องได้จริง
ที่มารูปภาพ : Hitachi, ABB