ครม. อนุมัติอาวุธรุ่นใหม่ให้กองทัพไทย เครื่องบินขับไล่ Gripen, เรือฟริเกต และเรือดำน้ำ

ครม. อนุมัติอาวุธรุ่นใหม่ให้กองทัพไทย เครื่องบินขับไล่ Gripen, เรือฟริเกต และเรือดำน้ำ

เมื่อไม่นานมานี้ คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบแผนจัดหาอาวุธรุ่นใหม่ให้กับกองทัพไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับขีดความสามารถทางทหารของประเทศให้ทันสมัย พร้อมรองรับสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สรุปข่าว

ครม. อนุมัติจัดหาอาวุธใหม่ให้กองทัพไทย รวมเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F 4 ลำ งบ 19,500 ล้านบาท, เรือฟริเกต 1 ลำ งบ 17,500 ล้านบาท และเรือดำน้ำ S26T จากจีน พร้อมงบเพิ่มรวม 13,200 ล้านบาท เพื่อเสริมศักยภาพทางทหารไทยให้ทันสมัย

เมื่อไม่นานมานี้ คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบแผนจัดหาอาวุธรุ่นใหม่ให้กับกองทัพไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับขีดความสามารถทางทหารของประเทศให้ทันสมัย พร้อมรองรับสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เครื่องบินขับไล่ Gripen E/F เฟสแรก 4 ลำ

หนึ่งในโครงการที่ได้รับการอนุมัติคือการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F รุ่นใหม่ล่าสุดจากบริษัท Saab ประเทศสวีเดน จำนวน 4 ลำแรก จากแผนทั้งหมด 12 ลำ วงเงินงบประมาณในเฟสแรกอยู่ที่ 19,500 ล้านบาท 

การจัดซื้อครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนด้านอากาศยานขับไล่ที่สำคัญที่สุดของกองทัพอากาศในรอบหลายปี โดย Gripen E/F มีสมรรถนะสูง ทั้งด้านระบบเรดาร์ อาวุธ และการรบในยุคดิจิทัล

เรือดำน้ำ S26T (Yuan-class)

ขณะเดียวกัน โครงการเรือดำน้ำ S26T แบบ Yuan-class จากประเทศจีน ยังคงเดินหน้าแม้จะมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ โดยประเทศไทยได้ชำระเงินค่างวดไปแล้วถึง 28 งวด รวม 7,700 ล้านบาท และยังต้องจ่ายเพิ่มอีก 5,500 ล้านบาท เพื่อให้เรือแล้วเสร็จสมบูรณ์ 

อย่างไรก็ตาม เรือดำน้ำลำนี้ไม่สามารถใช้เครื่องยนต์ MTU396 จากเยอรมนีตามแผนเดิมได้ เนื่องจากติดข้อจำกัดด้านการส่งออก จีนจึงเสนอใช้เครื่องยนต์ CHD620 ที่พัฒนาเองเป็นการทดแทน ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการประเมินด้านความเหมาะสม

เรือฟริเกตลำใหม่ของกองทัพเรือ

นอกจากนี้ ครม. ได้อนุมัติแผนจัดหา เรือฟริเกต 1 ลำ จากที่เสนอไว้ 2 ลำ ภายใต้งบประมาณ 17,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเรือฟริเกตนี้อาจต้องพิจารณาเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า  

เนื่องจากเอกสารประกอบโครงการยังไม่สมบูรณ์ โดยเรือฟริเกตรุ่นใหม่นี้จะช่วยเสริมกำลังทางทะเลทั้งในด้านการลาดตระเวน การป้องกันภัยทางอากาศ และการควบคุมทะเลในเขตเศรษฐกิจพิเศษ

กองทัพไทยอยู่อันดับ 25 ของโลก

โดยจากการจัดอันดับขีดความสามารถทางทหารโดย Global Firepower (GFP) ประจำปี 2024 และ 2025 กองทัพไทยอยู่ในอันดับที่ 25 จากทั้งหมด 145 ประเทศ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านการป้องกันประเทศที่ยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในภูมิภาค