
สรุปข่าว
วันนี้( 23 ก.พ.65) นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป สูงขึ้นร้อยละ 3.23 (YoY) ในเดือนมกราคม 2565 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากราคาพลังงานที่ปรับพุ่งขึ้น ส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และอัตราเงินเฟ้อ
สำหรับการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลทุกประเภท 2 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมานั้น สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า คาดว่าการปรับลดราคาตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ – ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2565 จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในช่วงเวลาดังกล่าว ลดลงถึงร้อยละ 0.22 ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจ รวมทั้งจะช่วยชะลอการปรับขึ้นของราคาสินค้าได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ห่วงกังวลวิกฤตยูเครนทวีความรุนแรงทำให้ราคาพลังงานพุ่ง ส่งผลต่อเงินเฟ้อทั่วโลกรวมทั้งไทย
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ PPI เดือนมกราคม 2565 สูงขึ้นร้อยละ 8.7 (YoY) เหตุเพราะดัชนีราคาผู้ผลิต โดยกลุ่มพลังงาน (ปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ เป็นราคาหน้าโรงกลั่นหรือโรงงาน) ในเดือนมกราคม 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 68.7 (YoY) ส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนสินค้าในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ตั้งแต่นำเข้าวัตถุดิบ กระบวนการผลิต ระบบขนส่งและโลจิสติกส์จนถึงมือผู้บริโภค
โดยการคำนวณอัตราเงินเฟ้อเกิดจากผลของราคาพลังงานทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเมื่อราคาพลังงานทำให้ราคาผู้ผลิตเพิ่มสูงก็ส่งผลต่อการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ อัตราเงินเฟ้อจึงเพิ่มสูงขึ้น ในเวลาเดียวกันราคาพลังงานก็ส่งผลโดยตรงต่อเงินเฟ้อ เพราะราคาพลังงานมีสัดส่วนน้ำหนักมากในตะกร้าการคำนวณเงินเฟ้อ เมื่อถูกนำไปคำนวณในเดือนมกราคม 2565 พลังงานมีราคาสูงขึ้นถึงร้อยละ 19.22 (YoY) และทำให้มี (contribution)
การสูงขึ้นของเงินเฟ้อทั่วไปถึงร้อยละ 2.25 เทียบกับกลุ่มอาหารสดราคาสูงขึ้นร้อยละ 3.05 (YoY) ทำให้มี (contribution) การสูงขึ้นของเงินเฟ้อเพียงร้อยละ 0.64 พูดง่ายๆ คือ นอกจากราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคต้องจ่ายเพิ่มขึ้นแม้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายโดยตรงจากน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการเดินทาง ก๊าซหุงต้ม และไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาก นี้คือประเด็นที่ นายรณรงค์ฯ อธิบดี สนค. ห่วงกังวล ด้วยเหตุวิกฤตยูเครนจะเป็นการซ้ำเติมให้ค่าครองชีพสูงขึ้นเพราะราคาพลังงาน และมีความเห็นว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่รัสเซียจะเป็นผู้เปิดสงครามในยูเครน แต่เป็นไปได้สูงที่รัสเซียจะอดทนต่อแรงกดดันของสหรัฐ อเมริกาและชาติยุโรปได้ไม่นาน จนเกิดวิกฤต 2 ด้านยืดเยื้อคือ การปะทะกันระหว่างกองกำลังใน “โดเนตสก์และลูฮันสก์” และการคว่ำบาตรทางการเงินและการค้าของสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรต่อรัสเซีย ทำให้ราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อสินค้าและบริการ อาทิ น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าชธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์สำเร็จรูป สินแร่ เหล็กและผลิตภัณฑ์ ปุ๋ย และบริการขนส่ง/โลจิสติกส์ ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสินค้าทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ประเมินว่าหากมีการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศ 2 บาทต่อลิตร ในช่วง 2 สัปดาห์หลังของเดือนกุมภาพันธ์ และช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม 2565 จะส่งผลทางตรงต่ออัตราเงินเฟ้อ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะลดลงถึงร้อยละ 0.11 ส่วนเดือนมีนาคมและเมษายน 2565 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะลดลง ถึงร้อยละ 0.22 นอกจากนี้ การปรับลดราคาน้ำมันดีเซลยังส่งผลกระทบทางอ้อมต่ออัตราเงินเฟ้อ โดยน้ำมันดีเซล เป็นต้นทุนหลักของการผลิตและการขนส่งสินค้าในหลายอุตสาหกรรม ดังนั้น การปรับลดราคาน้ำมันดีเซลจะช่วยชะลอการปรับขึ้นของราคาสินค้า และส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของไทยชะลอตัวได้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
ที่มา : สำนักงานนโยบายและยุทธสาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
ภาพประกอบ : AFP
- จับตา "โอเปก" เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 4 แสนบาร์เรลต่อวัน หลังจากลดกำลังผลิตในการประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมา
- "เงินเฟ้อ"หมวดอาหารใน"อังกฤษ"พุ่ง 4 เดือนติด
- ภาษีทรัมป์ เสี่ยงซ้ำเติมวิกฤตหนี้ เงินเฟ้อใหม่กำลังมา
- พณ. จัดสัมมนาปกป้อง-ตอบโต้ ยุคระเบียบการค้าโลกใหม่
- "พาณิชย์"เผย "FTA" สองเดือนแรกโตร้อยละ 24.11
- “นภินทร” นำพณ.โรดโชว์ผลไม้ไทยในฮาร์บิน ฉลองสัมพันธ์ 50 ปีไทย-จีน
- “เงินฝากญี่ปุ่น” โตช้าที่สุดรอบ 17 ปี หนีเงินเฟ้อ
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand