"เงินเฟ้อ"หมวดอาหารใน"อังกฤษ"พุ่ง 4 เดือนติด

สมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งอังกฤษ (BRC) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขยับขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน 

ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนเมษายนที่อยู่ที่ร้อยละ 2.6 และสูงกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 3 เดือนที่ร้อยละ 2.6 เช่นกัน

“เฮเลน ดิกคินสัน” ประธานบริหารของสมาคมฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า ราคาอาหารสดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารขยับขึ้น อย่างราคาขายส่งเนื้อวัวก็ขยับขึ้น ขณะที่ภาคธุรกิจมีต้นทุนเพิ่มขึ้นส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้น


สรุปข่าว

เงินเฟ้อหมวดอาหารในอังกฤษขยับขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 4 ขณะผู้ค้าปลีกหั่นราคาสินค้ากระตุ้นใช้จ่าย

สมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งอังกฤษ (BRC) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขยับขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน 

ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนเมษายนที่อยู่ที่ร้อยละ 2.6 และสูงกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 3 เดือนที่ร้อยละ 2.6 เช่นกัน

“เฮเลน ดิกคินสัน” ประธานบริหารของสมาคมฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า ราคาอาหารสดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารขยับขึ้น อย่างราคาขายส่งเนื้อวัวก็ขยับขึ้น ขณะที่ภาคธุรกิจมีต้นทุนเพิ่มขึ้นส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้น


เธอระบุว่า ขณะนี้ผู้ค้าปลีกต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้น 5 พันล้านปอนด์ เนื่องจากการปรับขึ้นเงินสมทบประกันสังคมฝั่งนายจ้างและค่าจ้างเมื่อเดือนเมษายน ทำให้เงินเฟ้อขยับสูงขึ้นอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน ข้อมูลของสมาคมฯ ยังระบุด้วยว่า ผู้ค้าปลีกบางรายอาจใช้กลยุทธ์ลดราคาสินค้าเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคจับจ่ายมากขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับมาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐฯ


“ดิกคินสัน” กล่าวว่า ราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหารยังคงเผชิญกำลังซื้อที่ฝืด แต่ราคาสินค้าในหมวดแฟชั่นและเฟอร์นิเจอร์เริ่มชะลอตัว เนื่องจากผู้ค้าปลีกเริ่มส่งเสริมการขาย ส่วนราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ลดลงมาก เพราะผู้ค้าปลีกพยายามกระตุ้นการใช้จ่ายก่อนจะเผชิญผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ในกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร ราคาในเดือนพฤษภาคมปรับลดลงราวร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบรายปี

แม้ว่าอังกฤษและสหรัฐฯ จะบรรลุการเจรจาข้อตกลงการค้าร่วมกันเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนว่านโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในวงกว้างอย่างไร

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN