
สรุปข่าว
จากกรณีที่ประธานนโยบายพรรคประชาธิปัตย์กับคณะ เสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยต้องมีการจัดทำรายงานเปิดเผยสภาพเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง วิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจของประเทศและเศรษฐกิจโลกเสนอต่อรัฐสภา ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับไปพิจารณาก่อนรับหลักการ และได้เสนอกลับมาให้สภาพิจารณา
จนล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว และลงมติ 202 คะแนน ต่อ 49 คะแนน ไม่เห็นด้วยที่จะรับหลักการร่างพ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เป็นของนายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำเสนอร่างครั้งนี้

ด้านนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า การแก้ไขพ.ร.บ.ดังกล่าว มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่จะนำไปสู่การกดดันการทำงานของธปท.ในฐานะธนาคารกลางได้
ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่น ที่จะส่งผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือต่อเครดิตเรทติ้งของประเทศ นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสามารถสูงขึ้น เหมือนบางประเทศที่การเมืองเข้ามากดดันการทำงานของธนาคารกลาง
โดยในไทยตอนนี้ ความน่าเชื่อถืออยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาตลอดเพราะนักลงทุนมีความมั่นใจในกรอบการเงินของภาครัฐ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้พรบ.ในขณะนี้
และเข่ยังกล่าวต่อว่าที่ผ่านมา ธปท.ได้รายงาน สภาวะเศรษฐกิจ การเงิน และการดำเนินงาน ต่อฝ่ายบริหารอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงได้เผยแพร่การดำเนินงานต่อสาธารณะอีกด้วย
ข้อมูลจาก : TNN ONLINE
ภาพจาก : TNN, ธนาคารกลางแห่งประเทศไทย
- สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 2569 วาระแรก วงเงิน 3.78 ล้านล้าน
- "สมศักดิ์" แจงงบฯ สธ. ภูมิใจ NCDs ประหยัดงบฯ ช่วยชาติ ยัน "หลานชาย" ไม่ได้ทำธุรกิจโยงกระทรวง
- "ธนาคารอาคารสงเคราะห์"ปล่อยกู้สินเชื่อใหม่ 8 หมื่นล้านบาท
- คาดยอดขาย"สมาร์ตโฟน"ปี 2568 โตแผ่ว
- "ธนาคารแห่งประเทศไทย"ชี้งบ 1.57 แสนล้าน ช่วย"เศรษฐกิจ"ปรับตัวได้
- ททท.เขย่าสิทธิ"เที่ยวไทยคนละครึ่ง"ใหม่
- "ไทย"หารือดูไบ ดึงลงทุนทันสมัยหนุน"สตาร์ทอัพ"
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand