
สรุปข่าว
นายเดชพินันท์ สุทัศนทรวง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส - ปฏิบัติการสินเชื่อรายย่อย ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและผ่านจุดต่ำสุดจากวิกฤตการณ์โควิด 19 แล้ว แต่ด้วยภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ ประกอบกับภาระการผ่อนจ่ายหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง นับเป็นปัจจัยกดดันกำลังซื้อ และเพิ่มความเปราะบางต่อภาวะการเงินของครัวเรือนไทยอย่างมาก
ดังนั้น ธนาคารทิสโก้ จึงได้เปิดโครงการ “คืนรถจบหนี้” ในระยะที่ 3 ขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถยนต์ของทิสโก้ ในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ให้มีทางเลือกในการนำรถมาคืนได้ โดยที่ธนาคารจะ “ยกหนี้ให้” ตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีมาก เพราะสามารถปลดภาระ และแก้ปัญหาหนี้ให้ลูกค้าได้อย่างยั่งยืน โดยไม่มีภาระผูกพันในอนาคต
“ธนาคารห่วงใยและเข้าใจสถานการณ์ที่ลูกค้าได้รับผลกระทบทางรายได้ จึงพร้อมให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้สินตามแนวทางมาตรการแก้หนี้อย่างยั่งยืนและโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนของรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างเต็มที่ โดยนำเสนอมาตรการช่วยเหลือที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาให้กับลูกค้าแต่ละกลุ่ม แต่ละรายอย่างเหมาะสมและยั่งยืน ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงโครงการ “คืนรถจบหนี้” ซึ่งเข้ามาช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบหนัก จนไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ต่อไปได้ให้กลับมามีสภาพคล่องอีกครั้ง โดยลูกค้าสามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือ ผ่านช่องทางต่างๆ ของทิสโก้ได้โดยตรง”
สำหรับโครงการ “คืนรถจบหนี้” ในระยะที่ 3 นี้ เปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการที่ www.tisco.co.th หรือติดต่อสาขาธนาคารทิสโก้ทั่วประเทศได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2565 โดยเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการยังคงเดิม นั่นคือ เป็นลูกค้าเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถยนต์ของทิสโก้ที่ได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ปรับลดลง จนไม่สามารถชำระค่างวดตามสัญญาเดิมได้ในระยะยาว และผ่อนชำระค่างวดมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 งวด โดยรถยนต์ต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อยสามารถใช้งานได้ตามปกติ
ทั้งนี้ หากลูกค้าได้รับการอนุมัติ ธนาคารจะ “ยกหนี้ให้จริง” โดยไม่ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายใดๆ เพิ่มเติม ไม่คิดค่าธรรมเนียมบริการ และระบุสถานะเป็นลูกค้า “ปิดบัญชี” ซึ่งเป็นการแก้ไขหนี้อย่างยั่งยืน ทำให้ไม่มีภาระหนี้ผูกพันในอนาคต และหากขายรถได้มูลค่าสูงกว่าภาระหนี้คงค้าง ธนาคารก็จะคืนเงินส่วนที่เกินนี้ให้แก่ลูกค้าเช่นเดิม ดังนั้น หากลูกค้าได้รับความเดือดร้อน ขอให้ลูกค้าประเมินสถานการณ์ตัวเอง และไม่ต้องลังเลสงสัยที่จะเข้ามารับความช่วยเหลือ เพื่อให้สามารถก้าวข้ามช่วงสถานการณ์วิกฤตนี้ไปให้ได้ เพื่อรักษาประวัติทางการเงินที่ดีไว้และในอนาคตยังสามารถกลับเข้ามาเป็นลูกค้ากับทิสโก้ได้อีกครั้ง อย่างไรก็ดี สำหรับโครงการคืนรถจบหนี้ในระยะที่ 1 และระยะที่ 2 มีลูกค้าที่ได้รับความช่วยเหลือเสร็จสิ้นแล้วมากกว่า 6,600 ราย
ที่มา ทิสโก้
ภาพประกอบ ทิสโก้
- ฮอนด้าเตรียมผลิตรถไฮบริดเพิ่มในสหรัฐฯ ย้ายฐานการผลิตเลี่ยงภาษี
- ภาษียานยนต์พุ่ง แต่ราคารถยนต์ยังไม่เพิ่ม เป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่?
- วิกฤต "นิสสัน" เลิกจ้าง 20,00 คนทั่วโลก ขาดทุน 7.5 แสนล้านเยน l World Wide Wealth
- "ภาษีทรัมป์" ดันราคา"รถยนต์"ในสหรัฐฯ เม.ย.ขยับขึ้น
- สหรัฐฯ ทำ “รถไร้คนขับ” ช่วยทหารแนวหน้า จะปล่อยโดรน ติดอาวุธก็ทำได้
- เกิดเหตุคาร์บอมใกล้กรุงมอสโก สังหารเจ้าหน้าที่อาวุโสรัสเซีย
- เตือน! ผู้ขับขี่เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand