ส่งออกเฮ ! เงินบาทอ่อน 11%เกิดจากปัจจัยอะไร

น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา  เปิดเผยว่า  เงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ   37.15-38.00  บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากตัวเลขสหรัฐฯดีเกินคาด  โดยการการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง แต่ก็ชะลอตัวจากระดับ 315,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ย. ขณะที่ตลาดลุ้นจีนเปิดเมือง 

สำหรับในการประชุมรอบล่าสุดแม้เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงแต่ดอกเบี้ยปลายทางจะยกสูงขึ้น โดยตลาดคาดว่าอาจจะสูงเกิน 5% ในปี 66   ส่วนการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯวันที่ 8 พ.ย. คาดว่าพรรคของปธน.ไบเดนจะสูญเสียที่นั่ง อย่างไรก็ดี ปัจจัยชี้นำค่าเงินจะให้น้ำหนักที่เฟดเป็นหลัก

ทั้งนี้ให้ติดตามข้อมูลเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของสหรัฐฯเป็นสำคัญ ซึ่งจะส่งผลต่อการคาดการณ์ดอกเบี้ยปลายทางของเฟด และบอนด์ยิลด์สหรัฐฯตลาดยังมีความหวังเกี่ยวกับแนวโน้มที่จีนอาจผ่อนคลายนโยบายปลอดโควิด ซึ่งจะช่วยพยุงเศรษฐกิจโลก และสร้างแรงส่งเชิงบวกต่อทิศทางการท่องเที่ยวของไทยในปี 66

นอกจากนี้อาจต้องระวังว่ากระแสเงินทุนที่ไหลเข้ามาในระยะนี้จะต่อเนื่องหรือไม่ เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในระดับสูง

ส่วนการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาค  ม.ค.- 3 พ.ย. พบว่า  วอน-เกาหลีใต้  16.23  %  รองลงมาคือดอลลาร์-ไต้หวัน 14.07%  เปโซ-ฟิลิปปินส์  12.87% หยวน-จีน12.33% ริงกิต-มาเลเซีย  12.23% บาท-ไทย 11.21 %     รูปี-อินเดีย 9.91%    รูเปียห์-อินโดนีเซีย 9.36%  ดอง-เวียดนาม 8.22%  

  ดอลลาร์-สิงคโปร์ 4.72%

สำหรับปีนี้เงินบาทอ่อนค่า ราว 11% ซึ่งอยู่ในช่วงกลาง ๆ ภาพรวมยังเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มไปกับสกุลเงินภูมิภาคเป็นผลมาจากการเผชิญแรงกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวของเฟดในช่วงที่ผ่านมา การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และต้นทุนนำเข้าน้ำมันที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปี ถึง 3 พ.ย. 6  นลท ต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ

 1.67 แสนล้านบาท แต่มียอดขายพันธบัตร 4.2 หมื่นล้านบาท

ที่มา  น.ส. รุ่ง สงวนเรือง

ภาพประกอบ  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา