G7 ย้ำ "ระบบธนาคาร" พร้อมรับแรงกระแทก แต่จำเป็นต้องเฝ้าระวัง

“ชุนอิจิ ซูซูกิ” รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น ในฐานะประธานการประชุมรัฐมนตรีคลังและเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 แห่ง หรือ G7 ที่เมืองนีงาตะ ระบุเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กลุ่ม G7 เห็นพ้องร่วมกันว่า ระบบการเงินโลกสามารถฟื้นตัวจากแรงกระแทก (resilient) ได้ เนื่องจากการปฏิรูปกฎระเบียบทางการเงินที่ดำเนินการหลังวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 รวมถึงการเพิ่มระดับเงินกองทุนและสภาพคล่องของธนาคาร ประกอบกับแนวทางการทำงานระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาสถาบันที่ล้มเหลวอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการส่งเสริมกฎระเบียบข้ามพรมแดน และความร่วมมือด้านการกำกับดูแล

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความจำเป็นที่ต้องเฝ้าระวังระบบการเงินโลกอยู่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ที่ประชุม G7 ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า จะแก้ไขช่องว่างด้านกฎระเบียบในระบบธนาคารที่เกิดขึ้นระหว่างเกิดปัญหาล่าสุดในธนาคารสหรัฐฯ และสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานกำกับดูแลและตรวจสอบ เพื่อติดตามพัฒนาการในภาคการเงิน

ด้าน “เจเรมี ฮันต์” รัฐมนตรีคลังอังกฤษ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการเงินของ G7 ได้หารืออย่างตรงไปตรงมาและเปิดกว้างเกี่ยวกับความท้าทายที่กำลังเผชิญ รวมถึงกฎระเบียบเกี่ยวกับภาคธนาคาร

นอกจากนี้ กลุ่ม G7 ยังได้เตือนถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ และผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน นอกเหนือจากปัญหาในภาคธนาคาร

อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของกลุ่ม G7 ไม่ได้ระบุถึงปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปทางการเมืองได้ แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงมีการหารือกันในประเด็นนี้ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อตลาด นอกเหนือจากต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นจากการใช้มาตรการการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB)

ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE

ที่มาภาพ : TNN