เงินบาทเช้านี้ 29 พ.ค. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลง” ที่ระดับ 32.81 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ 29 พ.ค. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลง” ที่ระดับ 32.81 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.81 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.81 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.65-32.95 บาท/ดอลลาร์

นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาทยอยอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ในลักษณะ Sideways Up (แกว่งตัวในกรอบ 32.60-32.85 บาทต่อดอลลาร์) ท่ามกลางแรงกดดันจากการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ซึ่งได้แรงหนุนบ้างจากแนวโน้มเฟดไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ย ที่สะท้อนผ่านรายงานผลการประชุม FOMC ล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) รวมถึง ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า เฟดมีโอกาสราว 74% ที่จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปีนี้ 


สรุปข่าว

เงินบาทเช้านี้ 29 พ.ค. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลง” ที่ระดับ 32.81 บาทต่อดอลลาร์ ทยอยอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ในลักษณะ Sideways Up มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.65-32.95 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.81 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.81 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.65-32.95 บาท/ดอลลาร์

นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาทยอยอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ในลักษณะ Sideways Up (แกว่งตัวในกรอบ 32.60-32.85 บาทต่อดอลลาร์) ท่ามกลางแรงกดดันจากการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ซึ่งได้แรงหนุนบ้างจากแนวโน้มเฟดไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ย ที่สะท้อนผ่านรายงานผลการประชุม FOMC ล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) รวมถึง ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า เฟดมีโอกาสราว 74% ที่จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปีนี้ 


นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับลดสถานะ Short USD ของผู้เล่นในตลาดลงบ้าง หลังเงินดอลลาร์เริ่มทยอยรีบาวด์สูงขึ้น นอกจากนี้ ในช่วงเช้าของตลาดการเงินเอเชีย เงินดอลลาร์ยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการอ่อนค่าลงของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่ล่าสุด อ่อนค่าเข้าใกล้โซน 146 เยนต่อดอลลาร์ 

ทั้งนี้ การทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นบ้างของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ยิ่งกดดันให้ราคาทองคำ (XAUUSD) ปรับตัวลดลงสู่โซนแนวรับแถว 3,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการปรับตัวลดลงของราคาทองคำดังกล่าวก็ยิ่งกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 32.85 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงเช้านี้

เงินบาทเริ่มมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลงได้บ้าง ในลักษณะ Sideways Up 

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทเริ่มมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลงได้บ้าง ในลักษณะ Sideways Up หลังเงินดอลลาร์เริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น ทว่า เงินดอลลาร์จะสามารถคงโมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ได้หรือไม่นั้น จำเป็นจะต้องเห็นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาสดใสและโดดเด่นกว่าบรรดาประเทศอื่นๆ ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล Trump 2.0 ก็ควรทยอยลดลง เพื่อทำให้ธีม Sell US Assets ค่อยๆ ลดลงไปในช่วงนี้ 

อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัดได้ เนื่องจากฤดูกาลจ่ายเงินปันผลให้กับบรรดานักลงทุนต่างชาติใกล้จบแล้ว นอกจากนี้  เราคงมุมมองเดิมว่า ราคาทองคำยังถือเป็นปัจจัยเสี่ยง Two-Way risk ที่อาจทำให้เงินบาทสามารถเคลื่อนไหวแข็งค่า หรือ อ่อนค่าลงได้ ตามทิศทางราคาทองคำ แม้ว่าการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ (XAUUSD) ยังมีอีกบ้าง จนกว่าจะถึงโซนแนวรับสำคัญแถว 3,225-3,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งอาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงเพิ่มเติม ทดสอบโซนแนวต้านถัดไป 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก แต่ทว่า หากราคาทองคำรีบาวด์สูงขึ้น เช่นในช่วงก่อนหน้า ก็อาจชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท หรือ ช่วยหนุนให้เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้

เงินบาทจะมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้

อนึ่ง เราจะมั่นใจมากขึ้นว่า เงินบาทจะมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้ หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าลงทะลุโซนแนวต้าน 33.00-33.10 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน เมื่อประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following พร้อมกันนี้ เราขอเน้นย้ำว่า พฤติกรรมการเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงนี้ ได้สะท้อนว่า ตลาดค่าเงินยังอยู่ในภาวะผันผวนสูง ทำให้เรายังคงแนะนำผู้เล่นในตลาดว่า ควรใช้กลยุทธ์ในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกลยุทธ์ Options และการพิจารณาใช้ Local Currency เนื่องจากบางสกุลเงิน อย่าง CNYTHB ก็มีความผันผวนที่ต่ำกว่า USDTHB อย่างเห็นได้ชัด

ที่มาข้อมูล : Krungthai GLOBAL MARKETS

ที่มารูปภาพ : Getty Images