หุ้นไทยรีบาวด์ 10 จุด นักลงทุนคลายกังวลการเมือง-หุ้นใหญ่หนุนตลาด

หุ้นไทยรีบาวด์ 10 จุด นักลงทุนคลายกังวลการเมือง-หุ้นใหญ่หนุนตลาด

บรรยากาศคลี่คลาย ดัชนีดีดกลับ

หลังจากตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงเทขายหนักในวันที่ 19 มิถุนายน 2568 จากความตึงเครียดทางการเมืองในประเทศ เช้าวันถัดมา (20 มิถุนายน) ตลาดเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง โดยดัชนี SET Index ปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุดตั้งแต่ต้นภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,078.82 จุด ณ เวลา 10.03 น. เพิ่มขึ้น 10.09 จุด หรือราว 0.94% ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มผ่อนคลายลงในสายตานักลงทุน

แรงหนุนสำคัญมาจากการกลับมาซื้อของนักลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและพลังงาน เช่น KBANK, KTB, SCB, ADVANC และ PTT ที่เริ่มฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดของวันก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นแรงเก็งกำไรระยะสั้นหลังตลาดปรับฐานแรง

การเมืองเริ่มนิ่ง ความเสี่ยงยุบสภาถอยห่าง

ปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้ดัชนีรีบาวด์ได้ มาจากความชัดเจนที่เพิ่มขึ้นของสถานการณ์การเมืองในประเทศ แม้พรรคภูมิใจไทยประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ แต่พรรคเพื่อไทยยังสามารถรักษาสถานะพรรคนำรัฐบาลได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมที่ยังอยู่ ทำให้ความเสี่ยงต่อการยุบสภาที่กดดันตลาดก่อนหน้านี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

นักวิเคราะห์มองว่า ภาวะที่ยังมีเสียงข้างมากในสภา แม้จะเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบบางส่วน ช่วยประคองความมั่นใจของนักลงทุนในระยะสั้น และอาจทำให้ตลาดยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่มีเสถียรภาพมากขึ้น

สรุปข่าว

ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์เช้า 20 มิ.ย. ดัชนี SET เพิ่มกว่า 10 จุด จากแรงซื้อกลับหุ้นใหญ่ เช่น KBANK, PTT, SCB หลังภาพการเมืองเริ่มมีเสถียรภาพ แม้ภูมิใจไทยถอนตัว รัฐบาลยังถือเสียงข้างมาก ลดแรงกดดันต่อดัชนี

บรรยากาศคลี่คลาย ดัชนีดีดกลับ

หลังจากตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงเทขายหนักในวันที่ 19 มิถุนายน 2568 จากความตึงเครียดทางการเมืองในประเทศ เช้าวันถัดมา (20 มิถุนายน) ตลาดเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง โดยดัชนี SET Index ปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุดตั้งแต่ต้นภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,078.82 จุด ณ เวลา 10.03 น. เพิ่มขึ้น 10.09 จุด หรือราว 0.94% ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มผ่อนคลายลงในสายตานักลงทุน

แรงหนุนสำคัญมาจากการกลับมาซื้อของนักลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและพลังงาน เช่น KBANK, KTB, SCB, ADVANC และ PTT ที่เริ่มฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดของวันก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นแรงเก็งกำไรระยะสั้นหลังตลาดปรับฐานแรง

การเมืองเริ่มนิ่ง ความเสี่ยงยุบสภาถอยห่าง

ปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้ดัชนีรีบาวด์ได้ มาจากความชัดเจนที่เพิ่มขึ้นของสถานการณ์การเมืองในประเทศ แม้พรรคภูมิใจไทยประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ แต่พรรคเพื่อไทยยังสามารถรักษาสถานะพรรคนำรัฐบาลได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมที่ยังอยู่ ทำให้ความเสี่ยงต่อการยุบสภาที่กดดันตลาดก่อนหน้านี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

นักวิเคราะห์มองว่า ภาวะที่ยังมีเสียงข้างมากในสภา แม้จะเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบบางส่วน ช่วยประคองความมั่นใจของนักลงทุนในระยะสั้น และอาจทำให้ตลาดยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่มีเสถียรภาพมากขึ้น

แรงซื้อหุ้นใหญ่ กลับมาเติมพลังตลาด

แรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มธนาคารและพลังงาน ช่วยหนุนดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่มีแรงซื้อกลับหลังถูกเทขายอย่างรุนแรงในช่วงวันก่อนหน้า นักกลยุทธ์จาก บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินว่า การฟื้นตัวครั้งนี้ยังคงอยู่ในกรอบของ “เทคนิคัลรีบาวด์” มากกว่าจะเป็นการกลับสู่แนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ดี ความต่อเนื่องของแรงซื้ออาจขึ้นอยู่กับพัฒนาการของสถานการณ์การเมืองในช่วงสัปดาห์หน้า รวมถึงปัจจัยภายนอก เช่น ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังต้องจับตา

ความท้าทายยังไม่จบ แต่ตลาดเริ่มหายใจโล่งขึ้น

แม้การรีบาวด์ในภาคเช้าจะช่วยคลายแรงกดดันในระยะสั้น แต่ตลาดยังต้องเผชิญความผันผวนจากหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ราคาน้ำมันที่แกว่งตัวสูง และความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะกรอบงบประมาณปี 2569 ที่อาจต้องเผชิญการต่อรองทางการเมืองในชั้นกรรมาธิการ

สำหรับนักลงทุน การฟื้นตัวครั้งนี้อาจเป็นโอกาสในการปรับพอร์ตหรือทยอยเข้าสะสมในหุ้นพื้นฐานดี หากสถานการณ์การเมืองสามารถคงความมีเสถียรภาพได้อย่างต่อเนื่องในช่วงหลังจากนี้

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : Freepik

บรรณาธิการออนไลน์