เงินบาทเช้านี้ 18 ก.ย. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ 31.80 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ 18 ก.ย. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ 31.80 บาท/ดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 31.80 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 31.73 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.75-32.00 บาท/ดอลลาร์

สรุปข่าว

เงินบาทเช้านี้ 18 ก.ย. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ 31.80 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.75-32.00 บาท/ดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 31.80 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 31.73 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.75-32.00 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาอ่อนค่าลงเข้าใกล้โซนแนวต้าน 31.85 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 31.60-31.83 บาทต่อดอลลาร์) หลังเฟดมีมติลดดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 4.00-4.25% ตามที่ตลาดคาด

ทว่า คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot ใหม่ของเฟด กลับสะท้อนว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ตลาดคาดหวังไว้ (จำนวนการลดดอกเบี้ยของเฟดในปี 2025 2026 2027 คือ 3-1-1 ขณะที่ตลาดประเมิน 3-3-0) อีกทั้งเฟดก็ไม่ได้ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ แย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ

สอดคล้องกับถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ที่ระบุว่า การลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ ถือเป็น การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลงมากขึ้น พร้อมย้ำจุดยืนของเฟดที่จะพิจารณาการดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบขึ้นกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ โดยไม่มี Preset Path ของแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย และการดำเนินงานของเฟดก็มีความเป็นกลาง ไม่ขึ้นกับอิทธิพลทางการเมือง ซึ่งภาพดังกล่าวได้ส่งผลให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกดดันให้ ราคาทองคำปรับตัวลดลง ส่วนเงินบาทก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่อง

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งเราประเมินว่า BOE อาจคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.00% หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนสิงหาคม ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกัน ตลาดแรงงานอังกฤษก็ยังไม่ได้ชะลอตัวลงหนัก

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) หลังข้อมูลในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่ง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ได้พุ่งสูงขึ้นมากกว่าคาด ทำให้ ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลแนวโน้มการชะลอตัวลงของตลาดแรงงานสหรัฐฯ

ที่มาข้อมูล : Krungthai GLOBAL MARKETS

ที่มารูปภาพ : TNN