“ศุภจี” มอบนโยบาย 9 สำนักงานในจีน ถอดรหัสแผนฉบับ 15 ดันส่งออกไทย

สถานการณ์การค้าไทย-จีน: ตลาดอันดับหนึ่งที่ยังเติบโตได้อีกมาก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เน้นย้ำว่า จีนยังคงเป็น ตลาดอันดับหนึ่งของไทย โดยมูลค่าการค้าไทย–จีนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.–ก.ย.) สูงถึง 108,639.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 28.08% และเป็นมูลค่าการส่งออกของไทย 30,667.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.13% ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของสินค้าไทยที่ยังเติบโตได้อีกมากในตลาดจีน

นางศุภจีระบุว่า โลกการค้าได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยผู้บริโภคจีนให้ความสำคัญกับ นวัตกรรม คุณภาพ และความยั่งยืน มากกว่าราคาถูก ดังนั้น ทูตพาณิชย์จึงได้รับมอบหมายให้วิเคราะห์โอกาสและความท้าทายในแต่ละมณฑลของจีน เพื่อกำหนดกลยุทธ์เจาะตลาดที่ตรงจุด

สินค้าเป้าหมาย 5 กลุ่มหลัก เจาะเทรนด์ใหม่จีน

ผู้อำนวยการสำนักงานในจีนได้นำเสนอโอกาสและสินค้าเป้าหมายของไทยในจีนรวม 5 กลุ่ม เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่:

1. กลุ่มสินค้าเกษตรและอาหาร: เน้นข้าว, ผลไม้ไทย (เช่น ทุเรียน มะม่วง มังคุด), อาหารแปรรูป, อาหารพร้อมรับประทาน และเครื่องปรุงรส
2. กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง: เน้นอาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง เพื่อตอบรับกระแสรักสัตว์ในสังคมเมือง
3. กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม: เน้นรังนก, โปรตีนจากพืช, น้ำมะพร้าว, ผลิตภัณฑ์สปา และบริการสุขภาพ
4. กลุ่มสินค้ารักษ์โลกและความยั่งยืน: เน้นบรรจุภัณฑ์ย่อยสลาย, เครื่องสำอางออร์แกนิก, เสื้อผ้ารีไซเคิล, ของตกแต่งบ้านจากวัสดุธรรมชาติ และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
5. กลุ่มสินค้านวัตกรรมและดิจิทัลคอนเทนต์: เน้นสินค้าทรัพย์สินทางปัญญา, ภาพยนตร์, เกม และแอนิเมชัน

ยกระดับการทำงาน: จากคู่ค้าสู่พันธมิตรร่วมลงทุน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ให้แนวนโยบายในการยกระดับการทำงานให้ก้าวไปอีกขั้น โดยเน้นการหา พันธมิตรลงทุนร่วมกัน (Joint Venture) ระหว่างเอกชนไทยและจีน เพื่อร่วมพัฒนาและผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคของจีน แทนที่จะหยุดแค่การเจรจาหาผู้กระจายสินค้า

"การทำงานต่อจากนี้... ต้องก้าวไปอีกขั้น คือการสร้างพันธมิตรลงทุนร่วมกันระหว่างเอกชนไทยและจีน เพื่อร่วมพัฒนาและผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคของจีน" นางศุภจีกล่าว

ถอดรหัสแผนพัฒนาเศรษฐกิจจีน ฉบับที่ 15

นางศุภจีได้หารือถึงแนวทางการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนภายใต้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 15 ซึ่งเน้นการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว, นวัตกรรม, เทคโนโลยี และการเพิ่มรายได้ของชนชั้นกลาง

โอกาสมหาศาล: รัฐบาลจีนมีเป้าหมายในการขยายกลุ่มประชากรที่มีรายได้ปานกลางจาก 400 ล้านคน เป็น 800 ล้านคน ซึ่งเป็นตลาดขนาดมหาศาลที่ไทยต้องเข้าถึงให้ได้

สินค้าที่ตอบโจทย์: กระทรวงพาณิชย์จะถอดรหัสแผนฯ 15 เพื่อดูว่าไทยสามารถตอบโจทย์ได้ตรงจุดไหน เช่น สินค้าเกษตร, สินค้าอุปโภคบริโภค, อาหารสัตว์, อาหารสุขภาพ, เกม, และสินค้าดิจิทัล

รับฟังข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน

นอกจากนี้ นางศุภจีได้ใช้โอกาสนี้ในการหารือกับผู้แทนภาคเอกชนไทยที่ดำเนินธุรกิจในจีน เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ โดยภาคเอกชนได้เสนอให้ภาครัฐสนับสนุนด้าน e-commerce, การสร้าง ภาพลักษณ์สินค้าไทย และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ–เอกชนไทยกับรัฐบาลท้องถิ่นของจีน

กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการ: บูรณาการทำงานร่วมกันภายในกระทรวงและหน่วยงานภายนอกเพื่อคัดเลือกผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพสูงจับคู่กับพันธมิตรจีนที่มีความพร้อมในการลงทุนและทำตลาดร่วมกัน เพื่อให้ "สินค้าไทยครองใจผู้บริโภคจีน" อย่างยั่งยืนในระยะยาว