
สรุปข่าว
วันนี้ ( 4 เม.ย. 64 )นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ภาคเอกชนประเมินภาวะหนี้ครัวเรือนไทยทะลุ 14 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 89.3% เมื่อเทียบกับจีดีพีในปี 2563 ซึ่งถือว่าทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 18 ปี เบื้องต้นต้องบอกว่า การเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือน ที่เทียบกับจีดีพี เป็นเพราะช่วงที่ผ่านมา จีดีพีไทยติดลบ ทำให้ตัวหารระหว่างหนี้ครัวเรือนกับจีดีพีลดลง แต่ยังไม่ได้น่ากังวลเกินรับมือไหว เพราะมูลค่าหนี้ไม่ได้เพิ่มในสัดส่วนสูงมากนัก ซึ่งภาวะหนี้ครัวเรือนที่ปรับสูงขึ้นนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นเหมือนกันทั่วโลก
โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำให้ภาพไม่ได้แตกต่างจากประเทศอื่นๆ แต่ถามว่าขณะนี้มีความจำเป็นต้องเข้าไปดูแลหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าจำเป็นจริง เพราะภาวะหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบกับความสามารถในการใช้จ่ายของแต่ละครัวเรือนไทย ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในภาพรวม
แนวทางการรับมือและแก้ไขปัญหาในขณะนี้คือ ต้องช่วยลดภาวะการชำระหนี้สินของครัวเรือนในแต่ละเดือนให้ลดลง เพื่อให้สามารถนำเงินส่วนที่ต้องใช้หนี้ ไปใช้จ่ายในด้านอื่นแทน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเบื้องต้นมาแล้ว รวมถึงสถาบันการเงินต่างๆ ก็เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ของตัวเองเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น ทำให้ภาคการผลิตกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง ส่งผลให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น สะท้อนได้จากตัวเลขผู้ว่างงานที่ปรับลดลงเหลือ 4 แสนคนเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่ได้สูงมาก หากเทียบกับต่างประเทศ ซึ่งการกลับมาดำเนินธุรกิจใหม่อีกครั้ง จะส่งผลให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้
- "สภาพัฒน์" แนะเร่งตั้ง"นากก้า"อุ้มเอสเอ็มอี
- "พิชัย" มั่นใจตลาดหุ้นไทยยังมีเสน่ห์
- ธปท.คาดหนี้ครัวเรือน/GDP ต่ำกว่าร้อยละ 88 ในไตราสแรกปีนี้
- "สภาพัฒน์"จี้อัดงบ 2.2แสนล."ประคองเศรษฐกิจ ปี68
- เศรษฐกิจไทยปี 68 โตต่ำสุดในรอบหลายปี สภาพัฒน์หั่นเป้าเหลือ 1.3–2.3%
- "สภาพัฒน์"หั่น"จีดีพี"ปีนี้เหลือโตร้อยละ 1.8
- ผู้ว่าฯธปท.แนะตั้งรับพายุสงครามการค้า
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand