"สภาพัฒน์"จี้อัดงบ​ 2.2แสนล.​"ประคองเศรษฐกิจ ​ปี68

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2568 สิ่งสำคัญคือต้องเร่งการใช้จ่ายงบประมาณ ที่มีอยู่ในตอนนี้ประมาณกว่า 220, 000 ล้านบาท ลงไปให้มากที่สุด ทั้งงบประมาณปี 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันมีเงินเหลืออยู่ประมาณ 157, 000 ล้านบาท

รวมไปถึงงบเหลื่อมปี 2568 ของหน่วยงานต่าง ๆ วงเงินประมาณ 66, 000 ล้านบาท และวงเงินงบลงทุน ในโครงการขนาดเล็กที่ดำเนินการแล้วเสร็จภายในระยะ 1 ปี ซึ่งมีวงเงินเหลืออีกส่วนหนึ่ง ซึ่งวงเงินงบประมาณทั้งหมด จะต้องเร่งผลักดันลงในระบบเศรษฐกิจให้ให้ภายในปีงบประมาณ 2568 หรืออาจมีบางส่วนที่จะเหลือไว้ใช้ในช่วงต้นงบประมาณปี 2569 ด้วย



สรุปข่าว

สศช. ดัน 3 เครื่องยนต์เศรษฐกิจไทย​หวังประคองเศรษฐกิจให้อยู่รอดชี้เหลืองบ 220, 000 ล้านบาท​ พร้อมอัดลงระบบ​ สู้สงครามการค้า และการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2568 สิ่งสำคัญคือต้องเร่งการใช้จ่ายงบประมาณ ที่มีอยู่ในตอนนี้ประมาณกว่า 220, 000 ล้านบาท ลงไปให้มากที่สุด ทั้งงบประมาณปี 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันมีเงินเหลืออยู่ประมาณ 157, 000 ล้านบาท

รวมไปถึงงบเหลื่อมปี 2568 ของหน่วยงานต่าง ๆ วงเงินประมาณ 66, 000 ล้านบาท และวงเงินงบลงทุน ในโครงการขนาดเล็กที่ดำเนินการแล้วเสร็จภายในระยะ 1 ปี ซึ่งมีวงเงินเหลืออีกส่วนหนึ่ง ซึ่งวงเงินงบประมาณทั้งหมด จะต้องเร่งผลักดันลงในระบบเศรษฐกิจให้ให้ภายในปีงบประมาณ 2568 หรืออาจมีบางส่วนที่จะเหลือไว้ใช้ในช่วงต้นงบประมาณปี 2569 ด้วย



โดยเครื่องยนต์สำคัญที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจในปี คือ การใช้จ่ายภาครัฐที่ต้องเร่งเบิกจ่ายให้มากขึ้น การบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยว ทั้งสามเครื่องยนต์นี้ต้องเร่งให้มากขึ้น 

ส่วนปัจจัยเสี่ยง คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก ซึ่งตอนนี้การเจรจาการค้ายังไม่ได้ข้อุติ และหลายประเทศกำลังเข้าคิวรอ ขณะที่ในประเทศยังมีปัญหาหนี้สินครัวเรือนในระดับสูง

ทั้งนี้ในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาคในช่วงที่เหลือของปี 2568 สศช. เสนอว่า ควรให้ความสำคัญกับเรื่องต่าง ๆ 6 ข้อ ดังนี้

1.การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อให้เม็ดเงินรายจ่ายภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว เพื่อรักษาแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงประมาณรายร่ายลงทุนภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 และงบประมาณกันไว้เบิกเหลื่อมปี ไม่ให้ต่ำกว่าร้อยละ 70 และร้อยละ 90

2.การดำเนินการเพื่อรองรับการยกระดับมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศสำคัญ

3.การปกป้องภาคการผลิตจากการทุ่มตลาดและการใช้นโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรม

4.การให้ความช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ที่ประสบปัญหาด้านการเข้าถึงสภาพคล่อง

5.การดูแลการผลิตภาคเกษตรและรายได้เกษตรกร 

และ6.การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN