เช็กรายละเอียดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายอะไร-โอนเงินเข้าวันไหนบ้าง?

เช็กรายละเอียดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายอะไร-โอนเงินเข้าวันไหนบ้าง?

สรุปข่าว

 วันนี้( 28 ต.ค.64) นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 เห็นชอบและอนุมัติการเพิ่มวงเงินสนับสนุนมาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบ COVID-19 โดยโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 ได้เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เพิ่มเติมอีก จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือน        พฤศจิกายน - ธันวาคม 2564 นั้น กรมบัญชีกลางจึงขอชี้แจงเกี่ยวกับการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2564 ดังนี้ 


ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป) 

- วงเงินซื้อสินค้า 700/800 บาทต่อเดือน  (เป็นวงเงินเดิม 200/300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 500 บาท) 

- ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน  

- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย  

     ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน  

     ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน  

     ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)      

 

ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้) 

- เงินคืนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน  

(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน) 

- เงินคืนค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน  

(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท  

ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)

 

ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้) 

- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน 
เช็กรายละเอียดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายอะไร-โอนเงินเข้าวันไหนบ้าง?

ภาพประกอบ: พีอาร์กรมบัญชีกลาง

“สำหรับโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ให้แก่กลุ่มที่มีรายได้น้อย นอกจากนี้ยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2564 จากการเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการมากขึ้น ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว


ข้อมูล : กรมบัญชีกลาง 

ภาพจาก : พีอาร์กรมบัญชีกลาง

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ