มูดี้ส์ลดเครดิตสหรัฐฯ ฉุดตลาดระหว่างวัน

เมื่อวันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ จากระดับ Aaa สู่ระดับ Aa1 โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลมีภาระหนี้สาธารณะสูงเกิน 36 ล้านล้านดอลลาร์ รวมถึงภาระดอกเบี้ยและการขาดดุลงบประมาณที่น่ากังวล

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นผันผวนในช่วงเช้าวันจันทร์ โดยดัชนีดาวโจนส์เคยร่วงลงกว่า 300 จุด ขณะที่ S&P500 ดิ่งลงถึง 1% ก่อนจะฟื้นตัวในช่วงท้ายวัน

นักวิเคราะห์มองว่าเป็นเรื่องที่ตลาดรับรู้แล้ว

แม้ข่าวจากมูดี้ส์จะสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด แต่บางฝ่ายมองว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยนักวิเคราะห์จาก Bank of America ให้ความเห็นว่า รายงานของมูดี้ส์ไม่ได้ให้อะไรเพิ่มเติมแก่นักลงทุน เนื่องจากภาวะการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นที่รับรู้กันอยู่แล้ว

หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์-สินค้าอุปโภคหนุนตลาด

ในดัชนี S&P500 มีหุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่ปิดในแดนบวก โดยเฉพาะกลุ่มเฮลธ์แคร์ที่ปรับตัวขึ้น 0.96% และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้น 0.42% ส่วนกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.55% และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยลดลง 0.27%

หุ้น Novavax พุ่งขึ้นถึง 15% หลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ อนุมัติการใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัท ส่งผลให้ราคาหุ้นดีดตัวแรง

สหรัฐฯ เตรียมใช้มาตรการภาษีต่อประเทศคู่ค้าที่ไม่จริงใจ

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่นักลงทุนให้ความสนใจ คือความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าหลักจำนวน 18 ประเทศ โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ เปิดเผยว่าหากประเทศใดไม่ดำเนินการเจรจาด้วยความสุจริตใจ จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรตามที่กำหนดไว้เมื่อวันที่ 2 เมษายน

“หากพวกเขาไม่ได้เจรจาอย่างสุจริตใจ พวกเขาก็จะได้รับหนังสือที่ระบุว่า ‘นี่คืออัตราภาษีของคุณ’” เบสเซนต์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Meet the Press ของ NBC News