หอการค้าไทยหนุน "คนละครึ่ง-หักภาษี"

นายธวัชชัย เศรษฐจินดา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานหอการค้าภาคกลาง เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มคนเปราะบางผ่านการโอนเป็นเงินสดให้ 10,000 บาทต่อคน ยังมีกลุ่มคนอยู่ตรงกลาง เป็นผู้มีรายได้ปานกลาง หรือชนชั้นกลาง ไม่ได้มีมาก แต่ก็ไม่ได้มีน้อย เป็นกลุ่มที่ต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาลด้านเพิ่มกำลังซื้อเช่นกัน ทั้งผู้อยู่ในระบบเป็นมนุษย์เงินเดือน หรืออยู่นอกระบบก็ตาม 

ดังนั้น หอการค้ามีข้อเสนอแนะอยากให้มีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้เพิ่มเติม กระตุ้นในรูปแบบคล้ายกับโครงการคนละครึ่ง หรือคูณสอง หมายถึงรัฐบาลสนับสนุนการใช้จ่ายเพิ่มให้ร้อยละ 50 ส่วนอีกร้อยละ 50 ผู้บริโภคจ่ายเอง เนื่องจากประเมินว่ากลุ่มคนอยู่ตรงกลาง หรือฐานะปานกลางเหล่านี้ยังพอมีกำลังซื้อ สามารถใช้จ่ายได้ ส่วนคนกลุ่มบนขึ้นไป คนกลุ่มนี้มีฐานะหรือมีศักยภาพการใช้จ่ายสูงมากอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจยังไม่มั่นใจพอจะใช้จ่ายออกมามากเท่าที่ควร จึงเสนอให้ใช้ประโยชน์จากมาตรการด้านภาษี สามารถนำค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายช่วงที่กำหนดไว้ไปหักลบกับภาษีที่จ่ายแล้วได้เงินคืนมา รูปแบบเป็นโครงการที่ยังรัฐบาลเคยทำอยู่แล้ว จึงทำได้ทันที เป็นผลกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายได้ทันทีเช่นกัน  

โครงการใช้จ่ายคนละครึ่งของรัฐบาลและประชาชน หรือผู้ประกอบการก็ตาม รูปแบบเหล่านี้จะสามารถทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาในระบบเศรษฐกิจไทยมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการด้านภาษี รัฐบาลไม่ต้องใช้จ่ายงบประมาณออกมาเลยด้วยซ้ำ ส่วนข้อที่บอกว่ารัฐบาลจะเก็บภาษีได้น้อยลง เท่ากับรายได้ของประเทศลดลง แต่การใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอย่างน้อยรัฐบาลก็ได้ภาษีในส่วนนี้เพิ่มเติม เป็นกระเป๋าข้างซ้ายและขวาต้องชั่งน้ำหนักให้ดี

ตอนนี้ข้อจำกัดของรัฐบาลคืองบประมาณ หากใช้งบประมาณในโครงการอะไรเพิ่มมากขึ้นอีกเป็นโครงการขนาดใหญ่ ก็จะมีภาระต่องบประมาณด้านการคลังมากจนเกินไป รวมถึงหนี้สาธารณะด้วย ทำให้หากใช้เป็นรูปแบบของโครงการคนละครึ่ง งบประมาณที่รัฐบาลใช้ก็จะไม่มากเกินความเหมาะสมจะรับได้

ที่มา TNN