สรุปข่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดการเงินญี่ปุ่น กำลังถูกจับตาเป็นพิเศษต่อผู้ที่จะได้ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ เนื่องจากตลาดการเงินญี่ปุ่นมีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง และนักลงทุนจะให้ความสนใจอย่างมาก กับความเคลื่อนไหวของเงินเยน เพราะหลังจากนี้ เงินเยนอาจจะถูกกำหนดโดยนโยบายของผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่
อย่างในกรณีถ้า "แฮร์ริส" ชนะเลือกตั้ง เธอมีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบเดิม ๆ โดยมุ่งให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป (soft landing) ซึ่งหากไม่เกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็จะเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งก็จะทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น เมื่อช่องว่างอัตราผลตอบแทนของญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ หดแคบลง
ในทางตรงกันข้าม หาก "ทรัมป์" ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 อาจช่วยผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างน้อยในระยะสั้น เนื่องจากเขาเรียกร้องให้มีการปรับลดภาษีและลดกฎระเบียบทางธุรกิจ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ส่งออกญี่ปุ่น ขณะเดียวกันก็จะสนับสนุนการซื้อดอลลาร์สหรัฐด้วย แต่อย่างไรก็ดี แผนการของทรัมป์ที่จะเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่จากหุ้นส่วนการค้านั้น นับเป็นความเสี่ยงต่อหุ้นของญี่ปุ่น
"ยูจิโระ โกโตะ" หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนของโนมูระ ซีเคียวริตีส์ ระบุว่า ถ้าแฮร์ริสชนะการเลือกตั้ง ตลาดจะตอบสนองผ่านดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง และอาจจะทำให้เยนแข็งค่าทดสอบ 150 เยนเทียบดอลลาร์สหรัฐ แต่ในกรณีทรัมป์ชนะและพรรครีพับลิกันชนะทั้งสองสภา เยนอาจอ่อนค่าเหนือระดับ 155 เยน ส่วนนักกลยุทธ์จากเครดิต อะกริกอล และธนาคารมิซูโฮคาดการณ์ว่าเยนอาจร่วงลงแตะ 160 เยนต่อดอลลาร์ หากทรัมป์ชนะ
- ทรัมป์ถอน “จาเร็ด ไอแซกแมน” เพื่อนอีลอน มัสก์ ออกจากการเสนอชื่อเป็นผู้บริหารองค์การนาซาคนใหม่
- ทรัมป์ลุยเพิ่มภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม 50% หวังดันอุตสาหกรรมในประเทศ
- "ทรัมป์" ชื่นชม "อีลอน มัสก์" ย้ำมัสก์ไม่ได้ลาขาดจาก DOGE จะกลับมาเป็นพัก ๆ
- ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์ เป็น 50 เปอร์เซ็นต์
- วิกฤตหนี้สหรัฐฯ "36 ล้านล้านเหรียญ" ที่ "ทรัมป์" ต้องแบกหลังแอ่น
- "ทรัมป์" ปลุกผีเหยียดจีน จับอนาคตชาติเป็นเดิมพัน ปิดประตู "นักศึกษาจีน" เรียนต่อในสหรัฐฯ
- จีนเลิก "แบน" อาหารทะเลญี่ปุ่น จ่อนำเข้าอีกครั้ง
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand