สรุปข่าว
รายงานข่าวระบุว่า การยกเลิกเครดิตภาษีอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ EV ของสหรัฐฯ ซึ่งกำลังชะลอตัวอยู่แล้ว ถึงกระนั้น ตัวแทนของเทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถ EV รายใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้แจ้งต่อคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ว่าสนับสนุนการยกเลิกเงินอุดหนุนดังกล่าว
อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ซึ่งเป็นทั้งผู้สนับสนุนรายใหญ่ของทรัมป์และมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ได้กล่าวไว้เมื่อเดือนก.ค.ว่า แม้การยกเลิกเงินอุดหนุนอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายของเทสลาเพียงเล็กน้อย แต่จะเป็น "หายนะ" สำหรับบริษัทคู่แข่งในตลาดรถ EV ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM)
อย่างไรก็ตาม สมาพันธ์นวัตกรรมยานยนต์ได้ส่งจดหมายถึงสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 15 ต.ค. เรียกร้องให้คงมาตรการเครดิตภาษีรถ EV ไว้ โดยระบุว่าเป็น "สิ่งสำคัญยิ่งต่อการรักษาสถานะความเป็นผู้นำระดับโลกของสหรัฐฯ" ในด้านการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต
ทั้งนี้ แม้ในอดีตเทสลาจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากมาตรการอุดหนุนรถ EV แต่ปัจจุบันเทสลากลับสนับสนุนให้ยกเลิกมาตรการดังกล่าว ด้วยการครองส่วนแบ่งตลาดรถ EV เกือบครึ่งหนึ่งในสหรัฐฯ ทำให้เทสลามั่นใจว่าจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ ในขณะที่คู่แข่งจะต้องดิ้นรนอย่างหนัก ดังที่มัสก์ได้กล่าวไว้เมื่อเดือนก.ค.ว่า การยกเลิกเงินอุดหนุนนี้ "น่าจะเป็นผลดีต่อเทสลา" ในระยะยาว เนื่องจากบริษัทมีข้อได้เปรียบด้านต้นทุน
ไมค์ เมอร์ฟี นักยุทธศาสตร์ของพรรครีพับลิกันกล่าวว่า การยกเลิกการให้เครดิตภาษีครั้งนี้เป็นนโยบายที่ "เทสลามาก่อน คนอื่นมาทีหลัง"
แม้นโยบายบางส่วนของทรัมป์อาจเอื้อประโยชน์ให้ผู้ผลิตรถยนต์ดั้งเดิม โดยเพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิตรถสันดาปที่ทำกำไรได้ดี อย่างไรก็ตาม การยกเลิกเครดิตภาษีรถ EV จะกระทบหนักต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะในช่วงที่ค่ายรถยักษ์ใหญ่อย่าง GM, ฟอร์ด (Ford) และฮุนได (Hyundai) กำลังประสบปัญหาในการทำให้ธุรกิจรถ EV ของตนมีกำไร
ที่มา TNN
- ทรัมป์ถอน “จาเร็ด ไอแซกแมน” เพื่อนอีลอน มัสก์ ออกจากการเสนอชื่อเป็นผู้บริหารองค์การนาซาคนใหม่
- ทรัมป์ลุยเพิ่มภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม 50% หวังดันอุตสาหกรรมในประเทศ
- "ทรัมป์" ชื่นชม "อีลอน มัสก์" ย้ำมัสก์ไม่ได้ลาขาดจาก DOGE จะกลับมาเป็นพัก ๆ
- ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์ เป็น 50 เปอร์เซ็นต์
- "ธนาคารอาคารสงเคราะห์"ปล่อยกู้สินเชื่อใหม่ 8 หมื่นล้านบาท
- คาดยอดขาย"สมาร์ตโฟน"ปี 2568 โตแผ่ว
- "ธนาคารแห่งประเทศไทย"ชี้งบ 1.57 แสนล้าน ช่วย"เศรษฐกิจ"ปรับตัวได้
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand