คอนเฟิร์ม! "ฮอนด้า-นิสสัน" ควบรวมกิจการ สู้ศึก เทสลา-อีวีจีน l การตลาดเงินล้าน

บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ และบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองและสามของญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ประกาศเริ่มการเจรจาควบรวมกิจการอย่างเป็นทางการ และก่อตั้งบริษัทโฮลดิ้งใหม่ขึ้นแท่นเป็นค่ายรถยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของโลก ตามหลังโตโยต้าและโฟล์คสวาเกน ท่ามกลางความท้าทายที่มากขึ้นจากคู่แข่งทั้ง เทสลา และแบรนด์รถยนต์จีน เช่น บีวายดี 

โทชิฮิโระ มิเบะ CEO ของ ฮอนด้า ระบุในงานแถลงข่าวว่า จำเป็นต้องทำให้บริษัทเติบโตเพื่อแข่งขันในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV และการขับขี่อัจฉริยะ การบูรณาการทางธุรกิจจะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ได้เปรียบ ซึ่งไม่อาจทำได้ภายใต้กรอบความร่วมมือในปัจจุบัน

"รอยเตอร์ส" อ้างแหล่งข่าวระบุว่า ฮอนด้า และ นิสสัน ตั้งเป้าจะบรรลุข้อตกลงควบรวมกิจการภายในเดือนมิถุนายน ปี 2568 และจะตั้งบริษัทโฮลดิ้งแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ปี 2569 หลังจาก 2 บริษัทถอนตัวจากตลาดหุ้น ซึ่ง ฮอนด้า จะแต่งตั้งบอร์ดบริหารส่วนใหญ่ รวมถึงประธานบอร์ด

ฮอนด้า เป็นบริษัทรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น รองจาก โตโยต้า มีมูลค่าตลาดมากกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ และ นิสสัน เป็นค่ายรถญี่ปุ่นรายใหญ่อันดับ 3 มีมูลค่าตลาดราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์ คาดการณ์ว่า มิตซูบิชิ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ นิสสัน น่าจะผนวกรวมในความร่วมมือครั้งนี้ด้วย 

การควบรวมกิจการระหว่างค่ายรถยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 แห่ง จะเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมรถยนต์โลก นับตั้งแต่ เฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์ และ PSA ควบรวมกิจการในปี 2564 และตั้งกลุ่มสเตลแลนทิส มูลค่า 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์

การผนวกรวมระหว่าง ฮอนด้า นิสสัน และ มิตซูบิชิ จะทำให้ยอดขายทั่วโลกของค่ายรถญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 8 ล้านคัน แซงหน้าอันดับ 3 ในปัจจุบันอย่าง ฮุนได และ เกีย ของเกาหลีใต้