สรุปข่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด เพื่อเสนอความเห็นที่เกี่ยวข้องประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจว่า ธปท. พิจารณาแล้วเห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จึงควรดำเนินการให้เกิดประโยชน์มากที่สุดภายใต้งบประมาณที่มีอยู่ โดยมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ดังนี้
1. ในระยะต่อไป ควรจัดแบ่งงบประมาณเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ไปสู่การลงทุนภาครัฐเพิ่มเติม เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการพัฒนาบุคลากรในสาขาที่ขาดแคลนและจำเป็น ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังจะช่วยวางรากฐาน เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
2. ด้วยเหตุที่โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้สร้างภาระทางการคลังสูง จึงควรติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่าของโครงการอย่างใกล้ชิด อีกทั้งควรให้ความสำคัญกับการบริหารเครื่องมือในการระดมทุนให้เหมาะสม และเร่งชำระคืนต้นเงินกู้เพื่อรองรับการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งจะช่วยรักษาเสถียรภาพด้านการคลังและลดความเสี่ยงจากต้นทุนการกู้ยืมของภาครัฐและเอกชนที่อาจสูงขึ้นได้
3.ภาครัฐควรนำประสบการณ์จากการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้ามาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยงข้อมูลและยกระดับกลไกการเชื่อมข้อมูลระหว่างฐานข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รวดเร็ว ทันการณ์ และครอบคลุมยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนที่ให้สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ตรวจสอบคุณสมบัติกลุ่มเป้าหมายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบข้อมูลเงินฝากนั้น ควรกำหนดแนวทางและรายละเอียดของการตรวจสอบคุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว รวมทั้งข้อพิจารณาว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการดังกล่าวข้างต้นได้ตามกฎหมาย เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย
ที่มา TNN
- "ธนาคารอาคารสงเคราะห์"ปล่อยกู้สินเชื่อใหม่ 8 หมื่นล้านบาท
- คาดยอดขาย"สมาร์ตโฟน"ปี 2568 โตแผ่ว
- "ธนาคารแห่งประเทศไทย"ชี้งบ 1.57 แสนล้าน ช่วย"เศรษฐกิจ"ปรับตัวได้
- ททท.เขย่าสิทธิ"เที่ยวไทยคนละครึ่ง"ใหม่
- "ไทย"หารือดูไบ ดึงลงทุนทันสมัยหนุน"สตาร์ทอัพ"
- "กระทรวงอุตสาหกรรม"กางแผนใช้งบ 1.57 แสนล้านบาท
- "กยศ."ชะลอหัก"เงินเดือน" 3พันบาทเริ่มมิ.ย.
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand