สรุปข่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประเทศฮังการีมีแผนที่จะมีการหารือกับพันธมิตรในภูมิภาคยุโรปเพื่อรับมือกับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สหรัฐมีมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อบริษัทน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ที่สุดที่พุ่งเป้าไปที่รายได้จากน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย เพื่อช่วยให้ยูเครนและรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐมีความได้เปรียบได้การเจรจาสันติภาพกับรัสเซียเพื่อยุติสงครามยูเครน
กระทรวงการคลังของสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรใส่บริษัท Gazprom และ Surgutneftegas ที่สำรวจ ผลิต และขายน้ำมันของรัสเซีย รวมถึงเรือของรัสเซีย 183 ลำที่ส่งน้ำมันของรัสเซีย ข่าวการคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
นายเปเตอร์ ซิยาร์โท รัฐมนตรีต่างประเทศของฮังการี กล่าวเมื่อวันที่ 12 มกราคมว่า การคว่ำบาตรดังกล่าวได้เพิ่มความท้าทายใหญ่ให้แก่ยุโรปตอนกลางอีกครั้ง ซิยาร์โทกล่าวว่าอุปทานของน้ำมันดิบที่ลดลงจะทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงกลั่น อาทิ น้ำมันเบนซินและดีเซล สูงขึ้นซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันจะสูงขึ้นอย่างมากในภูมิภาค
ทั้งนี้ ประเทศฮังการีนำเข้าน้ำมันดิบส่วนใหญ่มาจากท่อน้ำมัน Druzhba ซึ่งนำน้ำมันดิบของรัสเซียส่งต่อมายังฮังการีและสโลวาเกียโดยผ่านทางประเทศเบลารุสและยูเครน นายซิยาร์โทระบุว่าฮังการีจะเปิดการพูดคุยกับพันธมิตรในภูมิภาคเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อราคาน้ำมันและเศรษฐกิจในวงกว้าง แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าฮังการีจะมีการหารือกับประเทศใดบ้าง
ด้านนายดาลีป ซิงห์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวว่าความสามารถในการฟื้นตัวของตลาดน้ำมันสหรัฐในขณะนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐประกาศคว่ำบาตรภาคพลังงานของรัสเซีย โดยความเข้มแข็งของตลาดน้ำมันในประเทศสหรัฐทำให้รัฐบาลสามารถเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อเล่นงานเศรษฐกิจของรัสเซียจากการทำสงครามกับยูเครน
ซิงห์กล่าวว่า "การทำให้การคว่ำบาตรประสบผลสำเร็จ มันจะต้องมีความยั่งยืน นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีความเสียหาย เพราะการคว่ำบาตรไม่เคยเป็นเช่นนั้น แต่ในการทำให้การคว่ำบาตรสำเร็จได้มันจะต้องมีผลกระทบแบบพุ่งเป้า มากกว่าที่จะทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐและของโลก"
ที่มา TNN
ที่มาข้อมูล : -