กบร. ออกข้อบังคับ 6 กรณีจำกัดเหตุที่สายการบินปฏิเสธรับผู้โดยสาร มีผล 19 ก.พ. 2568

กบร. ออกข้อบังคับ 6 กรณีจำกัดเหตุที่สายการบินปฏิเสธรับผู้โดยสาร มีผล 19 ก.พ. 2568

คณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ซึ่งมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ออกข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 104 ว่าด้วย การปฏิเสธการรับขนผู้โดยสาร ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป โดยจำกัดให้สายการบินของไทยและต่างประเทศ (ผู้ขนส่ง) สามารถปฏิเสธการรับขนผู้โดยสารได้เฉพาะกรณีดังต่อไปนี้

1. ผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ไม่ได้แจ้งขอรับบริการช่วยเหลือพิเศษล่วงหน้าภายในกำหนดเวลาที่ผู้ขนส่งแต่ละรายกำหนด และผู้ขนส่งนั้นได้ใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุด ในการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางสำหรับผู้โดยสารนั้นแล้ว แต่ไม่สามารถจัดเตรียมบริการเช่นว่านั้นได้

2. ผู้โดยสารนั้นไม่สามารถแสดงเอกสารการเดินทาง ซึ่งเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่สามารถใช้ระบุตัวตน หรือเอกสารที่ใช้ในการผ่านแดนหรือการเข้าเมืองต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้

3. ผู้โดยสารที่หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทางหรือประเทศที่เป็นจุดแวะพักแจ้งว่าจะไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศหรือแวะพัก

4. ผู้โดยสารที่เป็นทารกแรกเกิดอายุต่ำกว่า 14 วัน

5. ผู้โดยสารอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่เดินทางโดยลำพัง

6. ผู้โดยสารที่มีอายุครรภ์เกินที่กำหนดในเงื่อนไขในการขนส่งของผู้ขนส่งแต่ละราย


สรุปข่าว

กบร. ออกข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ว่าด้วย การปฏิเสธการรับขนผู้โดยสาร ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป โดยจำกัดให้สายการบินของไทยและต่างประเทศ (ผู้ขนส่ง) สามารถปฏิเสธการรับขนผู้โดยสารได้เฉพาะกรณี

คณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ซึ่งมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ออกข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 104 ว่าด้วย การปฏิเสธการรับขนผู้โดยสาร ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป โดยจำกัดให้สายการบินของไทยและต่างประเทศ (ผู้ขนส่ง) สามารถปฏิเสธการรับขนผู้โดยสารได้เฉพาะกรณีดังต่อไปนี้

1. ผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ไม่ได้แจ้งขอรับบริการช่วยเหลือพิเศษล่วงหน้าภายในกำหนดเวลาที่ผู้ขนส่งแต่ละรายกำหนด และผู้ขนส่งนั้นได้ใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุด ในการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางสำหรับผู้โดยสารนั้นแล้ว แต่ไม่สามารถจัดเตรียมบริการเช่นว่านั้นได้

2. ผู้โดยสารนั้นไม่สามารถแสดงเอกสารการเดินทาง ซึ่งเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่สามารถใช้ระบุตัวตน หรือเอกสารที่ใช้ในการผ่านแดนหรือการเข้าเมืองต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้

3. ผู้โดยสารที่หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทางหรือประเทศที่เป็นจุดแวะพักแจ้งว่าจะไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศหรือแวะพัก

4. ผู้โดยสารที่เป็นทารกแรกเกิดอายุต่ำกว่า 14 วัน

5. ผู้โดยสารอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่เดินทางโดยลำพัง

6. ผู้โดยสารที่มีอายุครรภ์เกินที่กำหนดในเงื่อนไขในการขนส่งของผู้ขนส่งแต่ละราย


นอกจากนี้ ผู้ขนส่งมีสิทธิปฏิเสธการรับขนผู้โดยสาร สัมภาระ และของที่ผู้โดยสารไม่ยินยอมให้ตรวจค้นหรือไม่ผ่านการตรวจค้นเพื่อการรักษาความปลอดภัย รวมถึงการปฏิเสธการรับขนด้วยเหตุความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย

โดยเป็นไปตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562 มาตรา 41/133 

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสาร ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย

ที่มาข้อมูล : สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

ที่มารูปภาพ : AFP

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

ผู้โดยสารสายการบินการบินเครื่องบิน
กบร.
การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย