มาเลเซียเผยผลผลิตน้ำมันปาล์มยังแกร่ง

อะฮ์มัด ปาร์วีซ ฆูแลม กาดีร์ ผู้อำนวยการ MPOB กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "แม้ว่าในบางพื้นที่อาจมีปัญหาน้ำท่วมขังชั่วคราวและการเก็บเกี่ยวล่าช้า แต่เราคาดว่าผลกระทบโดยรวมต่อการผลิตของประเทศจะอยู่ในระดับที่รับมือได้"

ทั้งนี้ มาเลเซียเผชิญน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ส่งผลให้ประชาชนกว่า 90,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ ต่อมาในเดือนม.ค.ปีนี้เกิดน้ำท่วมอีกระลอก ทำให้ประชาชนหลายพันคนในรัฐยะโฮร์ทางตอนใต้ รวมถึงรัฐซาราวักและซาบาห์บนเกาะบอร์เนียว ต้องย้ายออกจากบ้านเรือน

ซาราวักและซาบาห์มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันคิดเป็นสัดส่วนราว 55% ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด 5.61 ล้านเฮกตาร์ในมาเลเซีย โดยทั้งสองรัฐผลิตน้ำมันปาล์มดิบได้ 43.6% ของผลผลิตรวมในปีที่ผ่านมา

อะฮ์มัด ปาร์วีซ  ระบุ แม้ว่าอาจได้รับผลกระทบในระยะสั้น แต่อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของมาเลเซียพร้อมรับมือเพื่อรักษาระดับผลผลิตและป้อนตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง" ขณะเดียวกัน อินเดีย จีน และยุโรป ยังคงมีอุปสงค์ในระดับที่มั่นคง

สำหรับตลาดอินเดีย อะฮ์มัด ปาร์วีซ ชี้แจงว่า โรงกลั่นส่วนใหญ่หันไปใช้น้ำมันถั่วเหลืองแทน เพราะได้กำไรจากการกลั่นดีกว่า อย่างไรก็ตาม คาดว่าความต้องการน้ำมันปาล์มจะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนเทศกาลรอมฎอนของชาวมุสลิม  ส่วนในประเทศจีนนั้น ปริมาณการนำเข้าในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการแข่งขันด้านราคาและภาพรวมของตลาด

"สำหรับยุโรป อุปสงค์ยังค่อนข้างทรงตัว แม้ว่าจะมีการเลื่อนบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR) ทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องรีบสต๊อกสินค้า ทั้งนี้ ปริมาณการนำเข้าอาจขึ้นลงตามราคาและการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมต่อกฎระเบียบใหม่"

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดความต้องการในระยะสั้นของตลาดเหล่านี้ คือความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของน้ำมันปาล์มเมื่อเทียบกับน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันทานตะวัน