xAI รายงานว่าการพัฒนา Grok 3 ถูกเร่งโดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์คอลอซซัส ซึ่งสร้างขึ้นภายในเวลาเพียง 8 เดือน ระบบนี้ขับเคลื่อนโดย Nvidia H100 GPU จำนวน 100,000 ตัว ช่วยให้ใช้งาน GPU ได้ถึง 200 ล้านชั่วโมงสำหรับการฝึกฝน ซึ่งมากกว่า Grok 2 รุ่นก่อนถึง 10 เท่า และทรัพยากรด้านการคำนวณที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้ยังช่วยให้ Grok 3 ประมวลผลชุดข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดเวลาในการฝึกอบรม และมีความแม่นยำสูงขึ้น
นอกจากพลังการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นแล้ว xAI ยังได้ปรับแนวทางการฝึกอบรมเพื่อปรับปรุงขีดความสามารถของ Grok 3 โดยขณะนี้โมเดลได้รวมชุดข้อมูลสังเคราะห์ กลไกการแก้ไขตัวเอง และการเรียนรู้แบบเสริมกำลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ข้อมูลของ xAI และ Musk การปรับปรุงเหล่านี้จะลดการตอบสนองที่ไม่ถูกต้อง หรือที่เรียกว่าอาการหลอน โดยใช้ขั้นตอนการตรวจสอบหลายขั้นตอน ปรับปรุงความแม่นยำเชิงตรรกะโดยการตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านการประเมินตนเองและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
สรุปข่าว
xAI ยังรายงานด้วยว่ามีการใช้วงจรป้อนกลับของมนุษย์และการฝึกอบรมตามบริบทเพื่อให้มั่นใจว่ามีการตอบสนองที่เป็นธรรมชาติและแม่นยำยิ่งขึ้น
โดยโมเดล AI จะได้รับการตรวจสอบโดยตรงจากมนุษย์เพื่อปรับแต่งการตอบสนอง มนุษย์จะประเมินความถูกต้อง ความเกี่ยวข้อง และประโยชน์ของเนื้อหาที่สร้างโดย AI ซึ่งช่วยให้โมเดลสามารถถูกปรับปรุงได้เมื่อเวลาผ่านไป
ขณะที่การฝึกอบรมตามบริบทเกี่ยวข้องกับการสอน AI ให้เข้าใจและปรับการตอบสนองตามบริบท ซึ่งหมายถึงการพิจารณาการโต้ตอบก่อนหน้านี้ ความตั้งใจของผู้ใช้ และข้อมูลโดยรอบเพื่อสร้างคำตอบที่แม่นยำและเกี่ยวข้องมากขึ้น
ข้อมูลของ xAI โมเดลดังกล่าวได้รับการออกแบบเพื่อสร้างโซลูชันที่ชาญฉลาดและคาดไม่ถึง ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการแก้ปัญหา
และการทดสอบเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า Grok 3 มีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่ง รวมถึง ChatGPT ของ OpenAI และ DeepMind Gemini ของ Google ในงานการให้เหตุผลที่ซับซ้อน ในการสัมภาษณ์ทางวิดีโอที่การประชุมสุดยอดรัฐบาลโลก ซึ่งจัดขึ้นที่ดูไบระหว่างวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ Musk กล่าวว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ AI ดีกว่า Grok