
บริษัทอะเมซอน (Amazon) มีรายได้รายไตรมาสแซงหน้าบริษัทวอลมาร์ท (Walmart) เป็นครั้งแรก โดยอะเมซอนเปิดเผยในช่วงต้นเดือนนี้ว่า บริษัทมีรายได้ในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 1.878 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่ารายได้ของวอลมาร์ทในช่วงเวลาเดียวกัน โดยวอลมาร์ทรายได้อยู่ที่ 1.805 แสนล้านดอลลาร์
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2555 วอลมาร์ทซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ครองตำแหน่งบริษัทที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในแต่ละไตรมาส หลังจากที่สามารถแซงหน้าบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่างเอ็กซอนโมบิล (Exxon Mobil)
สรุปข่าว
บริษัทอะเมซอน (Amazon) มีรายได้รายไตรมาสแซงหน้าบริษัทวอลมาร์ท (Walmart) เป็นครั้งแรก โดยอะเมซอนเปิดเผยในช่วงต้นเดือนนี้ว่า บริษัทมีรายได้ในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 1.878 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่ารายได้ของวอลมาร์ทในช่วงเวลาเดียวกัน โดยวอลมาร์ทรายได้อยู่ที่ 1.805 แสนล้านดอลลาร์
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2555 วอลมาร์ทซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ครองตำแหน่งบริษัทที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในแต่ละไตรมาส หลังจากที่สามารถแซงหน้าบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่างเอ็กซอนโมบิล (Exxon Mobil)
ธุรกิจค้าปลีกหลักของอะเมซอนยังคงเป็นแหล่งสร้างรายได้ที่ใหญ่ที่สุดให้กับบริษัท นอกจากนี้ รายได้รวมของอะเมซอนยังได้รับแรงหนุนจากธุรกิจคลาวด์คอมพิวติง (cloud computing) การโฆษณา และธุรกิจบริการสำหรับผู้ขาย โดยธุรกิจการบริการสำหรับผู้ขายบุคคลที่สาม (third-party seller services) ซึ่งรวมถึงค่าคอมมิชชันและค่าธรรมเนียมที่อะเมซอนเรียกเก็บจากการจัดส่งและการขนส่ง การโฆษณา และการสนับสนุนลูกค้านั้น คิดเป็นสัดส่วน 24.5% ของยอดขายรวมของบริษัทในปี 2567 ขณะที่รายได้จากธุรกิจอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส มีสัดส่วนเกือบ 17%
ทางด้านวอลมาร์ทพยายามดำเนินธุรกิจในแนวทางเดียวกับคู่แข่งเพื่อรักษาการเติบโตของยอดขาย โดยบริษัทได้ทำการตลาดสำหรับบุคคลที่สามและให้บริการจัดส่งแก่ผู้ขาย แม้ทั้งสองธุรกิจจะมีขนาดเล็กกว่าของอะเมซอนมาก นอกจากนี้ วอลมาร์ทยังได้เปิดตัวธุรกิจโฆษณาและโครงการสมาชิกสำหรับผู้ซื้อที่เรียกว่า วอลมาร์ทพลัส (Walmart+) เพื่อแข่งขันกับอะเมซอน ไพร์ม (Amazon Prime)
วอลมาร์ทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่น่าผิดหวังในปี 2568 ซึ่งส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงกว่า 400 จุดในวันพฤหัสบดี โดยบริษัทคาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้นในปี 2568 จะอยู่ที่ระดับ 2.50-2.60 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.76 ดอลลาร์/หุ้น
- "ธนาคารอาคารสงเคราะห์"ปล่อยกู้สินเชื่อใหม่ 8 หมื่นล้านบาท
- คาดยอดขาย"สมาร์ตโฟน"ปี 2568 โตแผ่ว
- "ธนาคารแห่งประเทศไทย"ชี้งบ 1.57 แสนล้าน ช่วย"เศรษฐกิจ"ปรับตัวได้
- ททท.เขย่าสิทธิ"เที่ยวไทยคนละครึ่ง"ใหม่
- "ไทย"หารือดูไบ ดึงลงทุนทันสมัยหนุน"สตาร์ทอัพ"
- "กระทรวงอุตสาหกรรม"กางแผนใช้งบ 1.57 แสนล้านบาท
- "กยศ."ชะลอหัก"เงินเดือน" 3พันบาทเริ่มมิ.ย.
TNNThailand