
ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตนและคณะผู้บริหารกรมสรรพสามิต ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์ คือ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ณ จังหวัดระยอง
เพื่อเตรียมความพร้อมตามมาตรการปรับปรุงเงื่อนไขอัตราภาษีรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภทประหยัดพลังงานิแบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง และไฟฟ้าที่สามารถเสียบปลั๊กประจุไฟฟ้า Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2569
สรุปข่าว
ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตนและคณะผู้บริหารกรมสรรพสามิต ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์ คือ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ณ จังหวัดระยอง
เพื่อเตรียมความพร้อมตามมาตรการปรับปรุงเงื่อนไขอัตราภาษีรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภทประหยัดพลังงานิแบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง และไฟฟ้าที่สามารถเสียบปลั๊กประจุไฟฟ้า Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2569
ทั้งนี้ การปรับปรุงโครงสร้างภาษีรถ PHEV จะตัดหลักเกณฑ์ของการได้สิทธิประโยชนทางภาษีของ PHEV ในเรื่องการกำหนดขนาดของถังน้ำมันออกไป
ซึ่งปัจจุบันกำหนดที่ 45 ลิตร และจะตัดเงื่อนไขในเรื่องปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) รวมถึงจะแยกโครงสร้างภาษีสรรพสามิตของ PHEV และ รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด HEV ออกจากกัน
สำหรับพิกัดอัตราภาษี PHEV และ HEV แยกจากกัน มีรายละเอียด ดังนี้
1. รถยนต์ประเภท PHEV ที่มีระยะการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ไม่ต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง และมีขนาดถังน้ำมันไม่เกิน 45 ลิตร จัดเก็บอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 5
2. รถยนต์ประเภท PHEV มีระยะการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง หรือมีขนาดถังน้ำมันมากกว่า 45 ลิตร จัดเก็บอัตราภาษีตามมูลค่าร้อยละ 10
ผมจะได้นำข้อมูลที่ได้จากการตรวจเยี่ยมในวันนี้ไปพัฒนานโยบาย เพื่อส่งเสริมการใช้และผลิต PHEV ในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมให้มีการผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
และจะยังคำนึงถึงการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของภูมิภาค เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป
ด้านนางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การปรับปรุงหลักเกณฑ์โดยการกำหนดระยะการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า ดังกล่าว เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับการพัฒนารถยนต์ PHEV ตามหลักสากล
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและต่อยอดให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ประเภท PHEV ที่มีมาตรฐานและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย

TNNThailand