General Motors หรือ GM เปิดเผยว่า คาดการณ์กำไรจากการดำเนินงาน (adjusted core profit) จะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้าน ถึง 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงจากตัวเลขเดิมที่เคยประกาศไว้ในเดือนมกราคม ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้รวมผลกระทบจากภาษีนำเข้า
แมรี่ บาร์ร่า (Mary Barra) ซีอีโอของ GM ระบุในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นว่า บริษัทยังคงอยู่ในช่วงเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ เพื่อปรับแนวทางการจัดเก็บภาษีและนโยบายการค้า พร้อมทั้งเตือนว่า การเจรจากับประเทศคู่ค้าสำคัญอื่น ๆ ก็อาจมีผลต่อธุรกิจของ GM เช่นกัน
หนึ่งในผลกระทบที่หนักที่สุด มาจากรถยนต์รุ่นราคาประหยัดที่ GM นำเข้าจากเกาหลีใต้ โดย มีต้นทุนภาษีสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นส่วนใหญ่ของต้นทุนรวมที่คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 4,000 - 5,000 ล้านดอลลาร์
พอล จาค็อบสัน CFO ของ GM เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนชดเชยต้นทุนภาษีอย่างน้อยร้อยละ 30 ผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น ลดต้นทุนการผลิต เจรจาซัพพลายเออร์ เพิ่มสัดส่วนชิ้นส่วนที่ผลิตในอเมริกา และขยายการผลิตแบตเตอรี่ภายในประเทศ
สรุปข่าว
General Motors หรือ GM เปิดเผยว่า คาดการณ์กำไรจากการดำเนินงาน (adjusted core profit) จะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้าน ถึง 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงจากตัวเลขเดิมที่เคยประกาศไว้ในเดือนมกราคม ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้รวมผลกระทบจากภาษีนำเข้า
แมรี่ บาร์ร่า (Mary Barra) ซีอีโอของ GM ระบุในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นว่า บริษัทยังคงอยู่ในช่วงเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ เพื่อปรับแนวทางการจัดเก็บภาษีและนโยบายการค้า พร้อมทั้งเตือนว่า การเจรจากับประเทศคู่ค้าสำคัญอื่น ๆ ก็อาจมีผลต่อธุรกิจของ GM เช่นกัน
หนึ่งในผลกระทบที่หนักที่สุด มาจากรถยนต์รุ่นราคาประหยัดที่ GM นำเข้าจากเกาหลีใต้ โดย มีต้นทุนภาษีสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นส่วนใหญ่ของต้นทุนรวมที่คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 4,000 - 5,000 ล้านดอลลาร์
พอล จาค็อบสัน CFO ของ GM เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนชดเชยต้นทุนภาษีอย่างน้อยร้อยละ 30 ผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น ลดต้นทุนการผลิต เจรจาซัพพลายเออร์ เพิ่มสัดส่วนชิ้นส่วนที่ผลิตในอเมริกา และขยายการผลิตแบตเตอรี่ภายในประเทศ
ซีอีโอของ GM ยังเผยต่อ CNBC ว่า GM มีแผนขยายกำลังการผลิตรถกระบะขนาดเล็กที่โรงงานในเมืองฟอร์ตเวย์น รัฐอินเดียน่า และจะทยอยประกาศแผนผลิตภายในประเทศเพิ่มเติมอีกในเร็ว ๆ นี้ เพื่อสร้าง "ความมั่นคงด้านการผลิต" และ "ลดต้นทุนจากภาษี"
GM ยังเปิดเผยว่าคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2025 จะอยู่ที่ระหว่าง 8,200 ล้าน - 10,100 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากตัวเลขเดิมที่ตั้งไว้ที่ 11,200 - 12,500 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงวางงบลงทุนระหว่างปีไว้ที่ประมาณ 10,000 - 11,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในการเพิ่มการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณเชิงบวกคือ ยอดขายรถใหม่ในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ถือเป็นยอดขายรายเดือนที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007 เนื่องจากผู้บริโภครีบซื้อรถก่อนที่ราคาจะพุ่งจากภาษีใหม่