"Krispy Kreme" ยอดวูบ-หุ้นดิ่ง พักแผนขยาย จ่อปรับกลยุทธ์ l การตลาดเงินล้าน

แม้ช่วงต้นของการขยายความร่วมมือจะมีทิศทางที่ดี แต่ยอดขายกลับไม่สามารถรักษาแนวโน้มได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ทำให้บริษัทต้องเร่งปรับแผน

ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและความกังวลเรื่องภาวะถดถอย ทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายด้านอาหารนอกบ้าน ส่งผลต่อยอดขายในอุตสาหกรรมอาหารบริการด่วน โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ ซึ่งส่งผลต่อ McDonald’s เช่นกัน โดยยอดขายภายในร้านในสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 3.6 ในไตรมาสที่ผ่านมา

Krispy Kreme รายงานผลขาดทุนสุทธิ 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 มีนาคม ซึ่งเป็นไตรมาสที่ 3 จาก 4 ไตรมาสล่าสุดที่บริษัทรายงานผลขาดทุน

หนึ่งในสาเหตุสำคัญคือการเร่งลงทุนขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการจัดส่งโดนัทให้สาขา McDonald’s ทั่วประเทศ ซึ่งกดดันต้นทุนและลดความสามารถในการทำกำไร

Krispy Kreme ใช้โมเดลธุรกิจแบบ "Hub and Spoke" โดยมีศูนย์กลางการผลิตในรูปแบบร้านหรือโรงงาน จากนั้นกระจายสินค้าไปยังจุดขายต่าง ๆ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตและปั๊มน้ำมัน บริษัทกำลังพิจารณาปรับโครงสร้างสาขาที่ไม่ทำกำไร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเครือข่ายในสหรัฐฯ ถึงร้อยละ 10

นักวิเคราะห์จาก Truist สถาบันการเงินชั้นนำในสหรัฐฯ ประกาศลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้น Krispy Kreme จาก "ซื้อ" เหลือเพียง "ถือ" โดยระบุว่า ตกใจในความรวดเร็วที่เรื่องราวพลิกผันและไม่สามารถเชื่อมั่นในกลยุทธ์และการดำเนินงานของผู้บริหารในขณะนี้ได้

แม้ทั้งสองบริษัทจะเคยประกาศร่วมมือกันเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อขยายการจำหน่ายโดนัท Krispy Kreme ไปยังร้าน McDonald’s ทุกสาขาในสหรัฐฯ ภายในสิ้นปี 2026 แต่แผนดังกล่าวกำลังถูกชะลออย่างไม่มีกำหนด โดยทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาทบทวนกำหนดการใหม่อีกครั้ง เพื่อหาจุดคุ้มทุนร่วมกัน