“รอยเตอร์ส” อ้างแหล่งข่าวระบุว่า มีบริษัทจากจีนหรือฮ่องกงอย่างน้อย 5 แห่งที่มีแผนเสนอขายหุ้นครั้งแรกต่อสาธารณะ (IPO) รวมถึงการจดทะเบียนควบ 2 ตลาด (dual listing) หรือเสนอขายหุ้นแบบจำกัด (share placement) ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ภายในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า
บริษัท 5 แห่งที่มีแผนเรื่องนี้ประกอบด้วยบริษัทด้านพลังงาน เฮลท์แคร์ และเทคโนโลยีชีวภาพ (biotech) ซึ่งบริษัทเหล่านี้กำลังมองหาโอกาสขยับขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าโลก
แผนจดทะเบียนของบริษัทจากจีนจะช่วยปลุกความคึกคักในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ซึ่งแม้จะได้รับความนิยมสำหรับการซื้อขายหุ้นเพื่อผลตอบแทน อาทิ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่ตลาดหุ้นสิงคโปร์ยังต้องการดึงดูดการจดทะเบียนของบริษัทจำนวนมากและสนับสนุนปริมาณการซื้อขาย
สรุปข่าว
“รอยเตอร์ส” อ้างแหล่งข่าวระบุว่า มีบริษัทจากจีนหรือฮ่องกงอย่างน้อย 5 แห่งที่มีแผนเสนอขายหุ้นครั้งแรกต่อสาธารณะ (IPO) รวมถึงการจดทะเบียนควบ 2 ตลาด (dual listing) หรือเสนอขายหุ้นแบบจำกัด (share placement) ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ภายในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า
บริษัท 5 แห่งที่มีแผนเรื่องนี้ประกอบด้วยบริษัทด้านพลังงาน เฮลท์แคร์ และเทคโนโลยีชีวภาพ (biotech) ซึ่งบริษัทเหล่านี้กำลังมองหาโอกาสขยับขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าโลก
แผนจดทะเบียนของบริษัทจากจีนจะช่วยปลุกความคึกคักในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ซึ่งแม้จะได้รับความนิยมสำหรับการซื้อขายหุ้นเพื่อผลตอบแทน อาทิ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่ตลาดหุ้นสิงคโปร์ยังต้องการดึงดูดการจดทะเบียนของบริษัทจำนวนมากและสนับสนุนปริมาณการซื้อขาย
ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ของบริษัทที่บริหารตลาดหุ้นสิงคโปร์ พบว่า ในปี 2567 ตลาดหุ้นสิงคโปร์ดำเนินการเรื่อง IPO เพียง 4 ครั้ง เมื่อเทียบกับ 71 แห่งที่ดำเนินการจดทะเบียนใหม่ในตลาดหุ้นฮ่องกง
“เจสัน ซอว์” หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจของ CGS อินเตอร์เนชั่นแนล ซิเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า การสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เพิ่มขึ้นมากหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้มงวดเรื่องมาตรการทางการค้ากับจีนมากขึ้น
ทั้งนี้ สหรัฐฯ กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราร้อยละ 145 และจีนก็เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตราร้อยละ 125 ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะระงับมาตรการดังกล่าวเป็นเวลา 90 วัน แต่สถานการณ์ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเวลาและความไม่แน่นอนของรัฐบาลทรัมป์
- ทรัมป์ลุยเพิ่มภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม 50% หวังดันอุตสาหกรรมในประเทศ
- "ธนาคารอาคารสงเคราะห์"ปล่อยกู้สินเชื่อใหม่ 8 หมื่นล้านบาท
- คาดยอดขาย"สมาร์ตโฟน"ปี 2568 โตแผ่ว
- "ธนาคารแห่งประเทศไทย"ชี้งบ 1.57 แสนล้าน ช่วย"เศรษฐกิจ"ปรับตัวได้
- ททท.เขย่าสิทธิ"เที่ยวไทยคนละครึ่ง"ใหม่
- "ไทย"หารือดูไบ ดึงลงทุนทันสมัยหนุน"สตาร์ทอัพ"
- "กระทรวงอุตสาหกรรม"กางแผนใช้งบ 1.57 แสนล้านบาท
