นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เป็นประธานเปิดงาน โครงการสร้างความร่วมมือการดำเนินงานในเขตปลอดอากรและคลังสินค้า: Cargo Network ประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมมิตร์ พัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ สมาคมด้านโลจิสติกส์ และพันธมิตรจากต่างประเทศ เช่น Hong Kong Air Cargo Terminals Limited และ Hong Kong Logistics Association เข้าร่วมงานฯ
นางสาวปวีณา เปิดเผยว่า โครงการ Cargo Network ครั้งนี้มี ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการยกระดับระบบขนส่งสินค้าทางอากาศของประเทศ โดยมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ (Air Cargo Ecosystem) ที่ทันสมัย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับโลก ซึ่งหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการฯ คือการส่งเสริมรูปแบบการขนส่งสินค้าแบบ Bulk Utilization Program (BUP) คือ การเพิ่มความสามารถในการรองรับสินค้า นำส่งสินค้าไปยังอากาศยานมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยลดต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในระยะยาว
สรุปข่าว
นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เป็นประธานเปิดงาน โครงการสร้างความร่วมมือการดำเนินงานในเขตปลอดอากรและคลังสินค้า: Cargo Network ประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมมิตร์ พัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ สมาคมด้านโลจิสติกส์ และพันธมิตรจากต่างประเทศ เช่น Hong Kong Air Cargo Terminals Limited และ Hong Kong Logistics Association เข้าร่วมงานฯ
นางสาวปวีณา เปิดเผยว่า โครงการ Cargo Network ครั้งนี้มี ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการยกระดับระบบขนส่งสินค้าทางอากาศของประเทศ โดยมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ (Air Cargo Ecosystem) ที่ทันสมัย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับโลก ซึ่งหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการฯ คือการส่งเสริมรูปแบบการขนส่งสินค้าแบบ Bulk Utilization Program (BUP) คือ การเพิ่มความสามารถในการรองรับสินค้า นำส่งสินค้าไปยังอากาศยานมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยลดต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในระยะยาว
ทั้งนี้ AOT ได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยใช้ระบบ BUP ร่วมกับคลังสินค้าหลักของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้แก่ คลังสินค้าบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) คลังสินค้าบริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจีคาร์โก้ จำกัด ซึ่งรูปแบบการขนส่งสินค้า BUP เป็นมาตรฐานระดับสากลที่ประสบความสำเร็จแล้วในสนามบินชั้นนำ เช่น ท่าอากาศยานฮ่องกง และท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ โดย AOT ได้นำมาปรับใช้เพื่อยกระดับศักยภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้สามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาคและระดับโลก
นอกจากนี้ AOT ยังวางแผนพัฒนาพื้นที่ว่างขนาด 58,000 ตารางเมตร ข้างคลังสินค้าหลังที่ 4 เพื่อจัดตั้งเป็น “Mixed-Use Logistic Center” รองรับกิจกรรมขนส่งยุคใหม่ เช่น ธุรกิจ e-commerce และระบบจัดส่งแบบ Smart Logistics ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์อากาศของอาเซียนอย่างแท้จริง
- ทอท. โชว์ครึ่งปีแรกผู้โดยสารแตะ 68 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 3.6 หมื่นล้าน
- โฉมหน้า "อาคารผู้โดยสาร" แห่งที่ 5 สนามบินชางงีของสิงคโปร์ สร้างเสร็จใกล้ South Terminal ของสุวรรณภูมิ
- AOT รายได้โต 6% ครึ่งปีแรก เดินหน้าพัฒนา Smart Airport
- "AOT" กำไร 1Q68 ไม่ฟื้น ค่าธรรมเนียม "คิงพาวเวอร์" พ่นพิษ โบรกฯแห่ ลดเป้ากำไร หั่นราคาเหมาะสม
- อินเดียกลับมาเปิดสนามบิน 32 แห่งอีกครั้ง หลังตกลงหยุดยิงกับปากีสถาน
- อากาศแปรปรวนเครื่องบิน 8 ลำจอดฉุกเฉินอู่ตะเภา
- AOT ชูแหล่งรายได้ใหม่ เปิดให้เช่าที่ดินรอบสนามบิน
