
บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ระบุว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] รายงานกำไรสุทธิ ไตรมาส 2/68 (ม.ค.-มี.ค.68) อยู่ที่ 5.05 พันล้านบาท ลดลง 13% yoy ลดลง 5% qoq ต่ำกว่าที่เราและ Bloomberg คาดที่ 13%/15% จากรายได้จากสัมปทานที่ลดลง
สรุปข่าว
บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ระบุว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] รายงานกำไรสุทธิ ไตรมาส 2/68 (ม.ค.-มี.ค.68) อยู่ที่ 5.05 พันล้านบาท ลดลง 13% yoy ลดลง 5% qoq ต่ำกว่าที่เราและ Bloomberg คาดที่ 13%/15% จากรายได้จากสัมปทานที่ลดลง
แม้ว่า AOT จะไม่ได้ระบุเหตุผลของการลดลง แต่เราเชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากค่าธรรมเนียมสัมปทานต่ำกว่าที่คาดไว้แก่ King Power แม้ว่าปริมาณผู้โดยสารระหว่างประเทศจะเพิ่มขึ้น 3% qoq ก็ตาม เราเชื่อว่าความกังวลเรื่องสภาพคล่องของ King Power ยังคงเป็นปัจจัยลบท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลกและการใช้จ่ายปลอดอากรที่อ่อนแอ ประกอบกับ จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงและรายได้สัมปทานที่อาจลดลง เราจึงคงคำแนะนำ “ขาย” ที่ราคาเป้าหมายเดิม 37 บาท
ด้าน บล.ดาโอ ยังคงแนะนำ “ถือ” AOT แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 47.00 บาท (เดิม 52.00 บาท) อิง DCF (WACC 7.4% และ terminal growth 3.5%) หลังจาก AOT รายงานงวดไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิ 5.1 พันล้านบาท (-13% YoY, -5% QoQ) ต่ำกว่า consensus และเราทำไว้ที่ 5.9 พันล้านบาท และ 5.7 พันล้านบาท สาเหตุสำคัญมาจากรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่ลดลงเป็น 5.2 พันล้านบาท ลดลง 19% YoY, ลดลง 8% QoQ (เราประเมินที่ 5.8 พันล้านบาท) โดยรายการหลักๆ ที่ลดลงมาจากธุรกิจดิวตี้ฟรี ขณะที่จำนวนผู้โดยสารเติบโตช้าลงเป็น 34.7 ล้านคน +8% YoY, +3% QoQ จากผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เริ่มชะลอตัว
เราปรับประมาณการกำไร AOT ปี 68 ลง 8% เป็น 1.8 หมื่นล้านบาท ลดลง 6% YoY ตามรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่ลดลงเป็นหลัก สำหรับกำไรครึ่งแรกงวดปี 68 คิดเป็น 57% จากทั้งปี โดยกำไรครึ่งหลังงวดปี 68 มีแนวโน้มลดลง YoY, HoH เนื่องจากเข้าสู่ช่วง low season ของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากนักท่องเที่ยวจีน และผลกระทบจากปัจจัยสงครามการค้าทำให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังในการใช้จ่ายและชะลอการเดินทางออกไป
ราคาหุ้น underperform SET -16% ในช่วง 3 เดือน จากความกังวลที่ร้านดิวตี้ฟรีของ King Power (KPD) เลื่อนการชำระผลตอบแทน ทั้งนี้ เรายังแนะนำ “ถือ” จากแนวโน้มกำไรที่เติบโตช้าลง นอกจากนั้น จะยังมีปัจจัย overhang จากความกังวล KPD ที่อาจกลับมามีปัญหาสภาพคล่องได้อีก แม้เดือน พ.ค.25 จะกลับมาจ่าย minimum guarantee (MG) ได้ แต่ยังต้องติดตามว่าจะมีการขอเลื่อนจ่าย MG ในอนาคตอีกหรือไม่ โดยเฉพาะในงวดที่ครบกำหนดขอเลื่อนชำระครบ 18 เดือนงวดแรกในเดือน มี.ค.69 อาจมีความเสี่ยงที่ KPD จะขาดสภาพคล่องได้อีก (เนื่องจากต้องจ่ายทั้งงวดเดือนนั้นและงวดที่เลื่อนมา) ซึ่งเราได้ทำ sensitivity analysis กรณีที่ AOT จะต้องปรับสัญญาใหม่ เช่น ลด minimum guarantee เพื่อช่วยเหลือ KPD โดยรายได้จาก KPD ที่ลดลงทุก 10% จะทำให้กำไรของ AOT ลดลงราว 7%
- หุ้นไทยไร้เสน่ห์ เพราะอะไร "หลบภัยตัวไหนดี"
- "ตลาดหลักทรัพย์ฯ"เผยไตรมาส 1/68 "บริษัทจดทะเบียน"มีกำไรสุทธิ 2.61 แสนล้านบาท
- ตลท.ผนึก KKPS-BoA โรดโชว์ "สิงคโปร์" ควง 7 บจ.โชว์ศักยภาพดึงเม็ดเงินลงทุน
- ผู้ถือหุ้น "DUSIT" คว่ำโหวต ประธาน-บอร์ด 4 คน พร้อมปัดตกเปลี่ยนนโยบายจ่ายปันผล
- "DMT" ยื่น "อนุญาโตฯ" เรียกเยียวยากรมทางหลวง 2,300 ล้านบาท เหตุ "โควิด-19" ทำรถขึ้นทางด่วนหาย
- “หุ้นไทย” เข้าสู่ “ตลาดหมี” แล้วหรือยัง ?
- นาทีทองช้อนหุ้นไทย! ตัวไหนน่าลงทุนระยะสั้น-ยาว เช็กที่นี่ !
ที่มาข้อมูล : บริษัทจดทะเบียน, บริษัทหลักทรัพย์
ที่มารูปภาพ : TNN
