ตลาดกาแฟแสนล้าน! พันธุ์ไทย มองยังเติบโตพุ่ง l การตลาดเงินล้าน

ภาพรวมต่อตลาดกาแฟในประเทศ คุณ สุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันตลาดกาแฟ มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 119,000 ล้านบาท และยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณร้อยละ 8 ต่อปี ปัจจัยหลักมาจากการที่คนไทยหันมาดื่มกาแฟกันมากขึ้น และเชื่อว่าจะผลักดันตลาด ให้เติบโตได้อีก โดยเฉพาะตลาดกาแฟนอกบ้าน 

ขณะที่ สถานการณ์ราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกนั้น เนื่องจากภาวะโลกร้อนส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตรให้ลดลง ซึ่งกระทบไปทั่วโลก และส่งผลต่อราคาเมล็ดกาแฟให้พุ่งสูง แต่ปัจจุบันราคาเริ่มลดลงจากระดับสูงสุดแล้ว แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงอยู่

สำหรับบริษัทฯ จะเน้นบริหารจัดการ และมุ่งส่งเสริมการปลูกกาแฟในภาคเหนือ เพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าว

คุณ สุขวสา กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ จะเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อไป โดยแผนในปีนี้ จะเปิดสาขาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 600 สาขา หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 50 สาขาต่อเดือน แต่ช่วงปลายปีคาดว่าจะมีการเร่งสปีดเปิดสาขาเพิ่มได้อีก ซึ่งการลงทุนจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ล้าน 5 แสนบาทต่อสาขา ปัจจุบันมีสาขารวมแล้ว 1,580 สาขา และมีโมเดลใหม่ที่เป็นแฟลกชิฟสโตร์ จะเปิดเพิ่มอีก 2-3 สาขา

สรุปข่าว

ตลาดกาแฟในประเทศยังเติบโตได้ดี ปัจจุบันมีมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท ด้าน กาแฟพันธุ์ไทย เร่งแผนสร้างการเติบโต ปีนี้จะเปิดสาขาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 600 สาขา หรือเฉลี่ยเปิดเพิ่มเดือนละ 50 สาขา

ภาพรวมต่อตลาดกาแฟในประเทศ คุณ สุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันตลาดกาแฟ มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 119,000 ล้านบาท และยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณร้อยละ 8 ต่อปี ปัจจัยหลักมาจากการที่คนไทยหันมาดื่มกาแฟกันมากขึ้น และเชื่อว่าจะผลักดันตลาด ให้เติบโตได้อีก โดยเฉพาะตลาดกาแฟนอกบ้าน 

ขณะที่ สถานการณ์ราคาเมล็ดกาแฟในตลาดโลกนั้น เนื่องจากภาวะโลกร้อนส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตรให้ลดลง ซึ่งกระทบไปทั่วโลก และส่งผลต่อราคาเมล็ดกาแฟให้พุ่งสูง แต่ปัจจุบันราคาเริ่มลดลงจากระดับสูงสุดแล้ว แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงอยู่

สำหรับบริษัทฯ จะเน้นบริหารจัดการ และมุ่งส่งเสริมการปลูกกาแฟในภาคเหนือ เพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าว

คุณ สุขวสา กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ จะเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อไป โดยแผนในปีนี้ จะเปิดสาขาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 600 สาขา หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 50 สาขาต่อเดือน แต่ช่วงปลายปีคาดว่าจะมีการเร่งสปีดเปิดสาขาเพิ่มได้อีก ซึ่งการลงทุนจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ล้าน 5 แสนบาทต่อสาขา ปัจจุบันมีสาขารวมแล้ว 1,580 สาขา และมีโมเดลใหม่ที่เป็นแฟลกชิฟสโตร์ จะเปิดเพิ่มอีก 2-3 สาขา

ด้านยอดขายต่อสาขา ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากปีที่แล้วมียอดขายเฉลี่ยที่ 150 แก้วต่อวันต่อสาขา ต่อมา ณ เดือนพฤษภาคม ของปีนี้ มียอดขายต่อสาขาเพิ่มขึ้น แตะที่ 200 แก้วต่อวันต่อสาขาแล้ว ภายในสิ้นปีนี้ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายต่อสาขาเป็น 300 แก้วต่อวันต่อสาขา

ขณะที่ เป้าหมายยอดขายรวมทั้งปี ตั้งไว้อยู่ที่ 5,800 ล้านบาท เติบโตเป็นเท่าตัวจากปีที่แล้ว (2567) ซึ่งมียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี มีเป้าภายใน ที่เป็นเป้าท้าทายอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท อยู่ด้วย

สำหรับผลประกอบการล่าสุด บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) บริษัทแม่ของกาแฟพันธุ์ไทย รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 เฉพาะส่วนของ กาแฟพันธุ์ไทย นั้น พบว่ามีรายได้รวมอยู่ที่ 959 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเติบโตจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และเติบโตของยอดขายสาขาเดิม ตลอดจนกลยุทธ์การตลาดและแคมเปญส่งเสริมการขายที่ดำเนินการมาต่อเนื่อง

ผู้บริหาร กาแฟพันธุ์ไทย กล่าวอีกว่า การเติบโตที่ผ่านมานั้น ส่วนหนึ่งยังมาจากระบบสมาชิก แม็กซ์ การ์ด ที่ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 700,000 ราย ตลอดจนการมุ่งสร้างแบรนด์ เน้นการสื่อสารในทุกช่องทาง ซึ่งทำให้กาแฟพันธุ์ไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงการขยายสาขาเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น

ซึ่งแคมเปญการตลาด ตามแผนจะดำเนินการประมาณ 4 แคมเปญต่อปี และล่าสุดจับมือกับเครื่องดื่ม กระทิงแดง พัฒนาเมนูใหม่ร่วมกัน เพื่อหวังขยายฐานกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น

โดยปัจจุบันฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมา มีการใช้พรีเซ็นเตอร์ (พี่จอง-คัลแลน) ทำให้มีลูกค้าในกลุ่ม เจน Z เพิ่มขึ้น และมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 15 ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มเจน X และเจน Y โดยจะยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าเจน Z เพิ่มมากขึ้นอีก

ที่มาข้อมูล : บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด

ที่มารูปภาพ : -