สื่อต่างประเทศรายงานว่า ดิสนีย์ และ ยูนิเวอร์แซล ร่วมกับฟ้องร้อง มิดเจอร์นีย์ (Midjourney) บริษัทปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) สายรูปภาพ ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างรูปภาพด้วย เอไอ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยกล่าวหาว่า มิดเจอร์นีย์ ฝึกฝนโมเดล เอไอ จากทรัพย์สินทางปัญญาของพวกเขา และสร้างรูปภาพที่มีตัวคาแรคเตอร์ชื่อดังของพวกเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์
ในคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางของแคลิฟอร์เนีย สตูดิโอทั้ง 2 รายเรียก มิดเจอร์นีย์ ว่าเป็นเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเสมือนจริง และเป็นหลุมดำของการลอกเลียนแบบที่ไม่มีขีดจำกัด ที่สร้างสำเนาผลงานที่มีลิขสิทธิ์ของ ดีสนีย์ และ ยูนิเวอร์แซล โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นับเป็นการเผชิญหน้าทางกฎหมายครั้งใหญ่ ครั้งแรกระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่จากฮอลลีวูด และบริษัทด้าน เอไอ ที่อาจพลิกโฉมของอุตสาหกรรมบันเทิงในอนาคตได้ และมีการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นมูลค่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อผลงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์ 1 ชิ้น ทั้งห้ามไม่ให้ มิดเจอร์นีย์ ละเมิดลิขสิทธิ์อีกในอนาคต รวมถึงเรียกร้องค่าเสียหายอื่น ๆ
สรุปข่าว
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ดิสนีย์ และ ยูนิเวอร์แซล ร่วมกับฟ้องร้อง มิดเจอร์นีย์ (Midjourney) บริษัทปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) สายรูปภาพ ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างรูปภาพด้วย เอไอ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยกล่าวหาว่า มิดเจอร์นีย์ ฝึกฝนโมเดล เอไอ จากทรัพย์สินทางปัญญาของพวกเขา และสร้างรูปภาพที่มีตัวคาแรคเตอร์ชื่อดังของพวกเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์
ในคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางของแคลิฟอร์เนีย สตูดิโอทั้ง 2 รายเรียก มิดเจอร์นีย์ ว่าเป็นเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเสมือนจริง และเป็นหลุมดำของการลอกเลียนแบบที่ไม่มีขีดจำกัด ที่สร้างสำเนาผลงานที่มีลิขสิทธิ์ของ ดีสนีย์ และ ยูนิเวอร์แซล โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นับเป็นการเผชิญหน้าทางกฎหมายครั้งใหญ่ ครั้งแรกระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่จากฮอลลีวูด และบริษัทด้าน เอไอ ที่อาจพลิกโฉมของอุตสาหกรรมบันเทิงในอนาคตได้ และมีการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นมูลค่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อผลงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์ 1 ชิ้น ทั้งห้ามไม่ให้ มิดเจอร์นีย์ ละเมิดลิขสิทธิ์อีกในอนาคต รวมถึงเรียกร้องค่าเสียหายอื่น ๆ
ซึ่งตามเอกสารประกอบการฟ้องร้อง ระบุรายชื่อผลงานมากกว่า 150 ชิ้นที่ถูกละเมิดฯ และนั่นหมายถึงว่า ค่าเสียหายจากคดีความ อาจสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หาก ดิสนีย์ และ ยูนิเวอร์แซล ชนะคดี
ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า โดยทั่วไปแล้ว โมเดล เอไอ ขนาดใหญ่ที่เปิดให้สาธารณชนเข้าถึงได้นั้น ส่วนใหญ่จะได้รับการฝึกฝนจากคลังข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งรวมถึงรูปภาพ และวิดีโอ จากอินเทอร์เน็ตซึ่งมักจะไม่ได้ขออนุญาต
แต่ตามคำฟ้องดังกล่าว อ้างถึงกรณีที่ มิดเจอร์นีย์ สามารถถูกสั่งให้สร้างรูปภาพตัวละครยอดนิยมของทั้ง 2 ค่ายหนัง ได้อย่างง่าย ซึ่งรวมถึงตัวคาแรคเตอร์ชื่อดัง เช่น ดาร์ด เวเดอร์ (Darth Vader) จากภาพยนตร์เรื่อง สตาร์ วอร์ส (Star Wars), บาร์ต ซิมป์สัน (Bart Simpson), เชร็ค (Shrek), แอเรียล (Ariel) จากเรื่อง เดอะ ลิตเติล เมอร์เมด (The Little Mermaid), วอลล์-อี (Wall-E) ตลอดจน เหล่ามินเนี่ยน จากภาพยนตร์เรื่อง เดสพิเคเบิล มี (Despicable Me) และอื่น ๆ
ซึ่งทีมกฎหมายของ ดิสนีย์ กล่าวว่า คดีความ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์แบบง่าย ๆ
และในแถลงการณ์ของ โฮราซิโอ กูติเอเรซ (Horacio Gutierrez) รองประธานบริหารอาวุโส และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและการปฏิบัติตามกฎหมายของ ดิสนีย์ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังมีความเชื่อมั่นในคำมั่นสัญญาของเทคโนโลยี เอไอ และมองในแง่ดีว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ได้อย่างมีความรับผิดชอบ แต่การละเมิดลิขสิทธิ์ก็คือการละเมิดลิขสิทธิ์ และความจริงที่ว่าผลิตโดยบริษัท เอไอ ก็ไม่ได้ทำให้การละเมิดลิขสิทธิ์นั้น น้อยลงไป
ด้าน ชาร์ลส์ ริฟกิน (Charles Rivkin) ประธานและซีอีโอ สมาคมภาพยนตร์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยเรียก การคุ้มครองลิขสิทธิ์ว่า เป็นกระดูกสันหลังของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และบอกว่า จำเป็นที่จะต้องรักษาความสมดุลในการใช้ เอไอ ระหว่างการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และสนับสนุนนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบโดยมีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะรักษาความเป็นผู้นำระดับโลกของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของอเมริกาได้
ส่วนสมาคมอุตสาหกรรมบันทึกเสียงแห่งอเมริกา ซึ่งเป็นกลุ่มผู้จัดพิมพ์เพลงที่กำลังต่อสู้คดีความกับบริษัทที่สร้างเพลงด้วย เอไอ เป็นอีกองค์กร ที่สนับสนุนในการฟ้องร้องดังกล่าว โดยมองว่าเป็นจุดยืนสำคัญ เพื่อความสร้างสรรค์ของมนุษย์และนวัตกรรมที่ไม่ละเมิด และไม่ทำลายคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่
นอกจากนี้ ดิสนีย์ และ ยูนิเวอร์แซล อ้างว่า มิดเจอร์นีย์ มีสมาชิก 21 ล้านคนในปัจจุบัน และเมื่อปีที่แล้วเพียงปีเดียว มีรายได้ถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกำลังวางแผนเปิดบริการ วิดีโอ ในเร็ว ๆ นี้
ก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ ได้เคยขอให้ มิดเจอร์นีย์ หยุดการละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหมด หรือใช้เทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานสร้างรูปภาพที่มีทรัพย์สินทางปัญญาของทั้ง 2 ราย แต่ก็ถูกเพิกเฉยมาตลอด
อย่างไรก็ตาม ทางมิดเจอร์นีย์ ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการฟ้องร้องครั้งนี้ แต่ เดวิด โฮลซ์ (David Holz) ซีอีโอ มิดเจอร์นีย์ กล่าวถึงเรื่องคดีความ ในการประชุมทางโทรศัพท์ประจำสัปดาห์ หลังจากมีคนถามว่าคดีนี้ จะเป็นอันตรายต่ออนาคตของสตาร์ทอัพเล็ก ๆ รายนี้หรือไม่ ซึ่งตอบเพียงว่า ไม่สามารถที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายที่กำลังดำเนินอยู่นี้ได้ เพราะโลกไม่ได้เจ๋งขนาดนั้น แต่เชื่อว่า มิดเจอร์นีย์ จะอยู่ต่อไปอีกนาน และคิดว่าทุกคนยังต้องการให้อยู่ต่อไป
อย่างไรก็ดี ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว เอพี เมื่อปี 2022 เขาอธิบายบริการสร้างรูปภาพว่า คล้ายกับเครื่องมือค้นหา ที่ดึงภาพจำนวนมากมาจากอินเทอร์เน็ต และแสดงความกังวลในประเด็นลิขสิทธิ์ของ เอไอ ว่าควรได้รับการพิจารณาในลักษณะเดียวกันกับที่กฎหมายลิขสิทธิ์เคยปรับตัวให้เข้ากับงานศิลปะและการสร้างสรรค์ของมนุษย์
โดยคน ๆ หนึ่งสามารถดูรูปภาพของคนอื่น เรียนรู้จากภาพนั้น และสร้างภาพที่คล้ายกันได้หรือไม่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันได้รับอนุญาตจากผู้คน แต่ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ก็จะเป็นการทำลายอุตสาหกรรมศิลปะระดับมืออาชีพทั้งหมด รวมไปถึงอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่มืออาชีพด้วย ซึ่งในขอบเขตที่ เอไอ เรียนรู้ก็เหมือนกับการเรียนรู้ของมนุษย์ เป็นสิ่งเดียวกัน หากภาพที่ออกมาแล้วแตกต่างกัน ก็น่าจะทำได้
อย่างไรก็ตาม บีบีซี รายงานว่า กรณีนี้เป็นส่วนหนึ่งขอความสัมพันธ์แบบรัก ๆ เลิกๆ ระหว่างอุตสาหกรรมบันเทิงกับ เอไอ เป็นเหมือนกับเหรียญ 2 ด้านที่มีทั้งข้อดี และข้อเสีย เนื่องจากสตูดิโอหลายแห่งต้องการใช้เทคโนโลยี เอไอ แต่ก็มีความกังวลว่าผลงานของตนเองอาจถูกลอกเลียนแบบ หรือถูกขโมยผลงานไป
รวมถึง ความกังวลต่อ เอไอ ที่จะเข้ามาแทนที่งานของตน เช่นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กรณีนักแสดงและนักเขียนได้รวมตัวกันประท้วงหยุดงาน เพื่อเรียกร้องการคุ้มครองจากเทคโนโลยีใหม่นี้
แต่ปัจจุบัน กลับพบว่า เอไอ ถูกนำมาใช้งานมากขึ้นในทีวี ภาพยนตร์ และวิดีโอเกม ซึ่งภาพยนตร์ 2 เรื่องที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ ที่ใช้ เอไอ เพื่อเปลี่ยนเสียง ได้แก่ เอมิเลีย เปเรซ (Emilia Perez) และ เดอะ บรูทอลลิสต์ (The Brutalist) และเทคโนโลยี เอไอ ก็ยังใช้ในการลดอายุของนักแสดง เช่น ทอม แฮงก์ส (Tom Hanks) และ แฮริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) อีกด้วย
ด้านอุตสาหกรรมสื่อ การเติบโตของ เอไอ ก็ส่งผลให้อุตสาหกรรมสื่อมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเช่นกัน และก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ แนวทางการป้องกันเนื้อหาจากการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ผิดกฎหมาย การที่ ดิสนีย์ และ ยูนิเวอร์แซล ยื่นฟ้องครั้งนี้ จึงเป็นการต่อสู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ที่สำคัญที่สุด
คิมเบอร์ลีย์ แฮร์ริส (Kimberley Harris) รองประธานบริหารและที่ปรึกษาทั่วไปของ เอ็นบีซี ยูนิเวอร์แซล (NBCUniversal) กล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์ถือเป็นรากฐานของธุรกิจของเรา สิ่งที่กำลังดำเนินการนี้ ก็เพื่อปกป้องการทำงานหนักของศิลปินทุกคนที่สร้างสรรค์ผลงานที่ให้ความบันเทิง และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคน รวมถึงการลงทุนอย่างมาก เพื่อทุ่มเทให้กับการผลิตเนื้อหาขึ้นมา