
นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินพร้อมเดินหน้าเคียงข้างประชาชนและภาคธุรกิจไทย โดยประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ต่อปี สอดคล้องกับมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อช่วยลดภาระทางการเงิน เพิ่มสภาพคล่อง และสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการและประชาชน การปรับลดครั้งนี้ เป็นการสานต่อมาตรการช่วยเหลือที่ธนาคารได้ริเริ่มมาก่อนหน้านี้ ซึ่งได้เคยนำร่องลดดอกเบี้ยเงินกู้มาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2568 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง ทั้งยังสะท้อนการยึดมั่นในแนวทาง “ธนาคารเพื่อสังคม” ที่พร้อมปรับลดกำไรให้อยู่ในระดับเหมาะสม เพื่อขยายความสามารถในการช่วยเหลือภารกิจทางสังคมได้มากขึ้น ธนาคารออมสินจึงประกาศ
สรุปข่าว
นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินพร้อมเดินหน้าเคียงข้างประชาชนและภาคธุรกิจไทย โดยประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ต่อปี สอดคล้องกับมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อช่วยลดภาระทางการเงิน เพิ่มสภาพคล่อง และสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการและประชาชน การปรับลดครั้งนี้ เป็นการสานต่อมาตรการช่วยเหลือที่ธนาคารได้ริเริ่มมาก่อนหน้านี้ ซึ่งได้เคยนำร่องลดดอกเบี้ยเงินกู้มาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2568 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง ทั้งยังสะท้อนการยึดมั่นในแนวทาง “ธนาคารเพื่อสังคม” ที่พร้อมปรับลดกำไรให้อยู่ในระดับเหมาะสม เพื่อขยายความสามารถในการช่วยเหลือภารกิจทางสังคมได้มากขึ้น ธนาคารออมสินจึงประกาศ
ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้ารายย่อย (MRR) ลดเหลือ 6.295% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ (MLR) ลดเหลือ 6.325% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าใช้วงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ลดเหลือ 6.095% ต่อปี
ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้ง 3 ประเภทของธนาคาร (MRR / MLR / MOR) ยังคงต่ำที่สุดในระบบเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ธนาคารจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเดิม เพื่อให้ผู้ฝากยังได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม ตามภารกิจส่งเสริมการออม ควบคู่กับการสนับสนุนให้เศรษฐกิจปรับตัวรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างภายในประเทศที่กระทบกำลังซื้อและความสามารถในการแข่งขัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
- กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี มีผลทันที
- กนง.มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยจากร้อยละ 1.75 เป็นร้อยละ 1.50
- TCAP ไตรมาส 2/68 กำไรโต 21% Q-Q ครึ่งปีแรกกำไรเพิ่ม 6%
- “พาณิชย์”จับมือ“เต่าบิน”ปั่นน้ำผลไม้ ช่วย"เกษตรกร"
- "Nvidia-AMD" ยอมจ่าย 15% รายได้ขาย"ชิป"ในจีน
- "ศาลฮ่องกง" สั่งชำระบัญชี China South City
- "ค่าเงินบาท"ปี 68 แนวโน้มแข็งค่าขึ้นร้อยละ 6.3
