'ศุภวุฒิ' จี้ไทยยกเครื่องประเทศครั้งใหญ่

'ศุภวุฒิ' จี้ไทยยกเครื่องประเทศครั้งใหญ่

ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดสภาพัฒน์) กล่าวเปิดการประชุมประจำปี 2568 เรื่อง "ยกเครื่องโครงสร้างประเทศไทย Thailand’s Institutional Reform" ว่าแม้ประเทศไทยจะมีศักยภาพในการเป็นประเทศรายได้สูงและมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมีทั้งความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรและการสะสมทุนทางวัฒนธรรมมายาวนาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องที่ทำให้เศรษฐกิจไทยโตต่ำ และไม่สามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตต่ำกว่า 5% มาตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 ซึ่งไม่เพียงพอต่อการก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง สิ่งนี้สะท้อนจากอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะด้านประสิทธิภาพของภาครัฐ ซึ่งลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี


สรุปข่าว

ประธานบอร์ดสภาพัฒน์ เรียกร้องให้มีการปฏิรูปโครงสร้างประเทศไทยครั้งใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจเติบโตต่ำและก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง ชี้ให้เห็น 5 ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังลึก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ฉุดรั้งการเติบโตของ GDP และลดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดสภาพัฒน์) กล่าวเปิดการประชุมประจำปี 2568 เรื่อง "ยกเครื่องโครงสร้างประเทศไทย Thailand’s Institutional Reform" ว่าแม้ประเทศไทยจะมีศักยภาพในการเป็นประเทศรายได้สูงและมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมีทั้งความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรและการสะสมทุนทางวัฒนธรรมมายาวนาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องที่ทำให้เศรษฐกิจไทยโตต่ำ และไม่สามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตต่ำกว่า 5% มาตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 ซึ่งไม่เพียงพอต่อการก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง สิ่งนี้สะท้อนจากอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะด้านประสิทธิภาพของภาครัฐ ซึ่งลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี


นอกจากนี้ ประธาน สศช. เน้นย้ำว่าปัญหาหลักมาจาก ข้อจำกัดเชิงโครงสร้างที่ฝังลึก ใน 5 ด้านสำคัญ ดังนี้:

1. ระบบ ระเบียบ กฎหมายที่มีจำนวนมาก ล้าสมัย และไม่เอื้อต่อการแข่งขัน มีอยู่มีปริมาณมากและมีความล้าสมัย 

2. หลักนิติธรรมที่ไม่เข้มแข็ง มีผลกระทบคือ เพิ่มความไม่แน่นอน, เพิ่มต้นทุนที่ไม่จำเป็น, และ ลดทอนความน่าเชื่อถือของประเทศ

3. ทุจริตคอร์รัปชันที่ฝังลึกเป็นโครงสร้าง ส่งผลกระทบโดยตรงในการ ลดทอนความเชื่อมั่น และ ลดผลิตภาพของประเทศในภาพรวม


4. ประชาธิปไตยที่ไม่มั่นคงส่งผลให้ ไม่สามารถสร้างกติกาที่เปิดกว้างและเป็นธรรมได้ ปัญหานี้ยังกระทบต่อ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และ สร้างการผูกขาดทางการค้า ซึ่งเป็นการลดทอนภาพรวมของเศรษฐกิจทั้งระบบ

5. ประสิทธิภาพของภาครัฐที่มีขนาดใหญ่ เทอะทะ และมีต้นทุนสูง มีปัญหาในการทำงานที่ แยกส่วนและขาดการบูรณาการ 

อย่างไรก็ตาม สะท้อนอย่างชัดเจนว่าประเทศไทยกำลังเผชิญข้อจำกัดเชิงโครงสร้างที่ฉุดรั้งศักยภาพในการเติบโตและลดทอนความเชื่อมั่นของภาคเอกชนและประชาชนด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องมีการ "ยกเครื่อง" โครงสร้างประเทศอย่างแท้จริง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นและปลดล็อกศักยภาพในการแข่งขันที่ยั่งยืน 

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN