
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 อยู่ที่ 98.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.79% จากไตรมาสก่อนหน้า หรือ QoQ และเพิ่มขึ้น 78.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ YoY และมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 338.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.39% จากปีก่อน โดยกำหนดรายชื่อผู้ไม่ได้รับสิทธิปันผล หรือ XD ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 และจ่ายปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568
สรุปข่าว
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 อยู่ที่ 98.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.79% จากไตรมาสก่อนหน้า หรือ QoQ และเพิ่มขึ้น 78.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ YoY และมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 338.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.39% จากปีก่อน โดยกำหนดรายชื่อผู้ไม่ได้รับสิทธิปันผล หรือ XD ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 และจ่ายปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568
ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมของไตรมาสที่ 4 ปี 2567 จำนวน 246.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.37% จากไตรมาสก่อนหน้า หรือ QoQ และเพิ่มขึ้น 28.80% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ YoY อย่างไรก็ดี ในส่วนของรายได้จากการขายและการให้บริการของกลุ่มบริษัทลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หรือ QoQ เนื่องจากในระหว่างปี 2567 กลุ่มบริษัทฯได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการรับรู้รายได้ ซึ่งเดิมจะรับรู้รายได้ทั้งจำนวนเมื่อให้บริการเสร็จสิ้น เป็นรับรู้รายได้ตลอดช่วงเวลาที่ให้บริการแก่ลูกค้า สำหรับปี 2567 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขาย และการให้บริการ จำนวน 829.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.40 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 18.15% เมื่อเทียบกับปี 2566
โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้รวมและกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้ การเติบโตนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจสเต็มเซลล์ที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มบริษัทยังคงมุ่งมั่นในด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตของธุรกิจ และผลักดันผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้านวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทมีการเพิ่มขนาดทีมขาย รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ หรือ Dealer และตัวแทนจำหน่าย หรือ Agent ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่บริษัทได้เดินหน้าในการขยายธุรกิจไบโอเทคโนโลยีในประเทศฟิลิปปินส์ โดยเป็นการลงทุนผ่านบริษัทย่อย MEDEZE Treasury PTE LTD ในการจัดตั้งธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Cell Banking Biotechnology ซึ่งประกอบไปด้วย ห้องปฏิบัติการด้านตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับความต้องการในการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดในฟิลิปปินส์ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ในอนาคต
- "ตลาดหลักทรัพย์ฯ"เผยไตรมาส 1/68 "บริษัทจดทะเบียน"มีกำไรสุทธิ 2.61 แสนล้านบาท
- ตลท.ผนึก KKPS-BoA โรดโชว์ "สิงคโปร์" ควง 7 บจ.โชว์ศักยภาพดึงเม็ดเงินลงทุน
- ผู้ถือหุ้น "DUSIT" คว่ำโหวต ประธาน-บอร์ด 4 คน พร้อมปัดตกเปลี่ยนนโยบายจ่ายปันผล
- "DMT" ยื่น "อนุญาโตฯ" เรียกเยียวยากรมทางหลวง 2,300 ล้านบาท เหตุ "โควิด-19" ทำรถขึ้นทางด่วนหาย
- “หุ้นไทย” เข้าสู่ “ตลาดหมี” แล้วหรือยัง ?
- "mai Forum" กระหึ่ม จัดมหกรรมครั้งที่ 9 "ติดอาวุธ คว้าโอกาส" 15 บจ.ฝ่าด่านท้าทายเคาะระฆังเทรดปีนี้
- RS ผิดนัดจ่ายดอกเบี้ย 27.48 ลบ. วงเงินกู้เฉียด 3,000 ลบ. เร่งเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ ตลท.แขวน CB
ที่มาข้อมูล : บริษัทจดทะเบียน
ที่มารูปภาพ : TNN
