นายกฯดันไทยสู่ฮับโลจิสติกส์ เผยยอดลงทุนสูงสุดรอบ 10 ปี พุ่ง 1.13 ล้านบาท

นายกฯดันไทยสู่ฮับโลจิสติกส์  เผยยอดลงทุนสูงสุดรอบ 10 ปี พุ่ง 1.13 ล้านบาท

นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายและบีโอไอ หลังยอดรับส่งเสริมลงทุนทะลุ 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดรอบ 10 ปี เร่งสร้างความเชื่อมั่นเป็นประเทศน่าลงทุน ตั้งเป้าศูนย์กลางโลจิสติกส์


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เปิดงานเผยแพร่ยุทธศาสตร์และนโยบายส่งเสริมการลงทุน ในหัวข้อ "Ignite Thailand : Invest in Endless Opportunities โอกาสการลงทุนไร้ขีดจำกัดในประเทศไทย" โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม


ทั้งนี้ในการกล่าวปาฐกถาครั้งนี้  นายกฯระบุว่า ตอนนี้เศรษฐกิจของไทยกำลังค่อยๆเติบโตขึ้น และอยากให้เติบโตแบบก้าวกระโดดกว่านี้  จึงต้องพยายามดึงนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามามากขึ้น พยายามเปลี่ยนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกให้เป็นโอกาสของประเทศ  ฉะนั้นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างบูรณาการ ซึ่งรัฐบาลเองต้องสร้างความเชื่อมั่นให้คนทั่วโลกทราบว่าประเทศไทยของเราเป็นประเทศที่น่าลงทุน เป็นประเทศแห่งโอกาส มีคนทรัพยากรและศักยภาพของประเทศพร้อม 


ขณะเดียวกันตอนนี้รัฐบาลกำลังผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องของรถไฟความเร็วสูงและรถไฟรางคู่  เชื่อมภาคใต้เข้าสู่ศูนย์กลางทางการค้าและบริการ  อนุมัติการลงทุนรถไฟสายสีม่วงและสายสีม่วงใต้ เพื่อเชื่อมกรุงเทพฯชั้นนอก กับ ชั้นในเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีเตรียมของรถไฟความเร็วสูงภาคอีสานระยะที่ 2 เพื่อเชื่อมการคมนาคม ขนส่งของประเทศไทยในระดับภูมิภาค ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเพิ่มการเชื่อมต่อในการขนส่งสินค้า เรื่องการท่องเที่ยว และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเรา


นอกจากนี้ยังมีเรื่องของท่าอากาศยาน ที่ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญ รัฐบาลเริ่มโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ซึ่งมีมูลค่าการลงทุน 1.5 แสนล้านบาท ที่จะขยายการใช้ท่าอากาศยานทั้งในกรุงเทพฯและในภูมิภาค ถือเป็นโครงการที่สำคัญมากที่จะทำให้โลจิสติกส์เข้มแข็งขึ้น ขณะเดียวกันประเทศอื่นๆและประเทศจีน สนใจที่จะมาลงทุนกับเราในโครงการแลนด์บริจด์ด้วย

สรุปข่าว

นายกฯ'ขอบคุณทุกฝ่ายและบีโอไอ หลังยอดรับส่งเสริมลงทุนทะลุ 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดรอบ 10 ปี เร่งสร้างความเชื่อมั่นเป็นประเทศน่าลงทุน ตั้งเป้าศูนย์กลางโลจิสติกส์

นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายและบีโอไอ หลังยอดรับส่งเสริมลงทุนทะลุ 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดรอบ 10 ปี เร่งสร้างความเชื่อมั่นเป็นประเทศน่าลงทุน ตั้งเป้าศูนย์กลางโลจิสติกส์


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เปิดงานเผยแพร่ยุทธศาสตร์และนโยบายส่งเสริมการลงทุน ในหัวข้อ "Ignite Thailand : Invest in Endless Opportunities โอกาสการลงทุนไร้ขีดจำกัดในประเทศไทย" โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม


ทั้งนี้ในการกล่าวปาฐกถาครั้งนี้  นายกฯระบุว่า ตอนนี้เศรษฐกิจของไทยกำลังค่อยๆเติบโตขึ้น และอยากให้เติบโตแบบก้าวกระโดดกว่านี้  จึงต้องพยายามดึงนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามามากขึ้น พยายามเปลี่ยนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกให้เป็นโอกาสของประเทศ  ฉะนั้นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างบูรณาการ ซึ่งรัฐบาลเองต้องสร้างความเชื่อมั่นให้คนทั่วโลกทราบว่าประเทศไทยของเราเป็นประเทศที่น่าลงทุน เป็นประเทศแห่งโอกาส มีคนทรัพยากรและศักยภาพของประเทศพร้อม 


ขณะเดียวกันตอนนี้รัฐบาลกำลังผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องของรถไฟความเร็วสูงและรถไฟรางคู่  เชื่อมภาคใต้เข้าสู่ศูนย์กลางทางการค้าและบริการ  อนุมัติการลงทุนรถไฟสายสีม่วงและสายสีม่วงใต้ เพื่อเชื่อมกรุงเทพฯชั้นนอก กับ ชั้นในเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีเตรียมของรถไฟความเร็วสูงภาคอีสานระยะที่ 2 เพื่อเชื่อมการคมนาคม ขนส่งของประเทศไทยในระดับภูมิภาค ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเพิ่มการเชื่อมต่อในการขนส่งสินค้า เรื่องการท่องเที่ยว และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเรา


นอกจากนี้ยังมีเรื่องของท่าอากาศยาน ที่ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญ รัฐบาลเริ่มโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ซึ่งมีมูลค่าการลงทุน 1.5 แสนล้านบาท ที่จะขยายการใช้ท่าอากาศยานทั้งในกรุงเทพฯและในภูมิภาค ถือเป็นโครงการที่สำคัญมากที่จะทำให้โลจิสติกส์เข้มแข็งขึ้น ขณะเดียวกันประเทศอื่นๆและประเทศจีน สนใจที่จะมาลงทุนกับเราในโครงการแลนด์บริจด์ด้วย

นายกฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลยังตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่นักลงทุนให้ความสนใจในฐานะศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และอากาศยานของภูมิภาคเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการค้าการลงทุนของประเทศไทยต่อประเทศอื่นๆทั่วโลกได้มากขึ้น และยังให้ความสำคัญการลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยีดิจิทัล หรือธุรกิจในอนาคต รวมถึงรัฐบาลมีแผนผลิตบุคลากรเพิ่มมากกว่า 80,000 คน และดึงดูดบุคลากรจากทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนการเรียนรู้และทำงานไปด้วย


รวมไปถึงนายกฯยังได้เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนในไทยว่า วันนี้เป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยทำลายสถิติใหม่  เนื่องจากได้รับส่งเสริมการลงทุนมูลค่ามากกว่า 1.13 ล้านล้านบาท เป็นตัวเลขการลงทุนที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนในการผลักดันในเรื่องนี้ และขอบคุณบีโอไอที่ทำงานอย่างหนัก ทำให้เห็นผลงานเป็นประจักษ์ เป็นความน่าภาคภูมิใจของประเทศไทย จึงขอเน้นย้ำว่าการพัฒนาเศรษฐกิจการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องอาศัยทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ภาคประชาชน ถ้าเราทำบรรยากาศของประเทศให้เป็นที่น่าลงทุนได้ เราจะสามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้มั่นคงและยังยืนต่อไปได้

ที่มาข้อมูล : รัฐบาลไทย

ที่มารูปภาพ : รัฐบาลไทย