
บลูมเบิร์กรายงานวันนี้ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ "สก็อตต์ เบสเซนต์" พร้อมด้วย "จามีสัน กรีเออร์" ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ(USTR) จะเดินทางไปยังนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงปลายสัปดาห์นี้เพื่อเจรจาการค้าระดับสูงกับจีน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี "เหอ หลี่เฟิง" เป็นผู้นำการเจรจาฝ่ายจีน ซึ่งนับเปิดการเจรจาครั้งแรกระหว่างทั้งสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจหลังจากเกิดความตึงเครียดทางการค้ามายาวนาน
การเดินทางดังกล่าวได้รับการประกาศในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารจากรัฐบาลจีนและสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการเจรจาการค้าครั้งแรกที่ได้รับการยืนยันตรงกันระหว่างทั้งสองประเทศ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าครั้งใหญ่ไปยังประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีนที่ทรัมป์กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจีนหลายรายการสูงถึง 145% กระทั่งรัฐบาลปักกิ่งได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอเมริกัน เช่นกันในอัตรา 125%
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ เมื่อวันอังคาร (7 พฤษภาคม 2568) ระบุว่า สหรัฐฯ และจีนเตรียมจัดการเจรจาระดับสูงในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้จะมุ่งไปที่การลดความตึงเครียด ไม่ใช่การทำข้อตกลงขนาดใหญ่ จำเป็นต้องลดความตึงเครียดลงก่อน จึงจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้
เบสเซนต์ยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการแตกแยกกับจีนในเรื่อง "สิ่งทอและสินค้าประเภทนั้น" แต่ต้องการลดความพึ่งพาอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์
สรุปข่าว
บลูมเบิร์กรายงานวันนี้ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ "สก็อตต์ เบสเซนต์" พร้อมด้วย "จามีสัน กรีเออร์" ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ(USTR) จะเดินทางไปยังนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงปลายสัปดาห์นี้เพื่อเจรจาการค้าระดับสูงกับจีน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี "เหอ หลี่เฟิง" เป็นผู้นำการเจรจาฝ่ายจีน ซึ่งนับเปิดการเจรจาครั้งแรกระหว่างทั้งสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจหลังจากเกิดความตึงเครียดทางการค้ามายาวนาน
การเดินทางดังกล่าวได้รับการประกาศในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารจากรัฐบาลจีนและสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการเจรจาการค้าครั้งแรกที่ได้รับการยืนยันตรงกันระหว่างทั้งสองประเทศ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าครั้งใหญ่ไปยังประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีนที่ทรัมป์กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจีนหลายรายการสูงถึง 145% กระทั่งรัฐบาลปักกิ่งได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอเมริกัน เช่นกันในอัตรา 125%
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ เมื่อวันอังคาร (7 พฤษภาคม 2568) ระบุว่า สหรัฐฯ และจีนเตรียมจัดการเจรจาระดับสูงในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้จะมุ่งไปที่การลดความตึงเครียด ไม่ใช่การทำข้อตกลงขนาดใหญ่ จำเป็นต้องลดความตึงเครียดลงก่อน จึงจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้
เบสเซนต์ยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการแตกแยกกับจีนในเรื่อง "สิ่งทอและสินค้าประเภทนั้น" แต่ต้องการลดความพึ่งพาอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์
เบสเซนต์ระบุว่า สหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ทางการค้าที่สำคัญมากกับ 18 ประเทศ และนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูง สหรัฐฯ ได้เปิดเจรจากับ 17 ประเทศในกลุ่มนี้แล้ว ยกเว้นจีน "พันธมิตรทางการค้าหลายประเทศของเราได้เข้ามาพบเราพร้อมข้อเสนอที่ดีมาก" เบสเซนต์กล่าวระหว่างให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เบสเซนต์กล่าวเป็นนัยว่าในบรรดาพันธมิตรทางการค้า อินเดียจะเป็นประเทศแรกที่บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ อีกทั้งยังกล่าวว่า ประเทศในเอเชียอื่น ๆ รวมถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่เปิดกว้างมากที่สุดในแง่ของการมุ่งสู่ข้อตกลงทางการค้ากับรัฐบาสหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวด้านการเจรจาของสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดโลก ต่างทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น โดยเฉพาะการหวังมีการผลกระทบด้านภาษีศุลกากรไปถึงบรรยากาศการค้าโลก นักลงทุนมีความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้า
รายงานข่าวระบุว่า ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้น 3.2% แตะที่ระดับ 97,500 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ (7 พฤษภาคม 2568 ) ขณะที่ราคาอีเธอร์ (Ether) ทะยานขึ้นกว่า 4% ขานรับรายงานข่าวที่ว่าสหรัฐฯ และจีนจะจัดการเจรจาการค้าร่วมกันที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์สัปดาห์นี้
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนประกาศในวันนี้ (7 พฤษภาคม 2568) ระบุว่า "เหอ หลี่เฟิง" สมาชิกกรมการเมืองคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางเยือนสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 9-12 พฤษภาคม 2568 ตามคำเชิญของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งนอกจากพบปะหารือกับบรรดาผู้นำสวิสและฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ในโอกาสนี้ "เหอ" ในฐานะหัวหน้าผู้แทนฝ่ายจีน จะประชุมด้านเศรษฐกิจและการค้าร่วมกับ"สก็อตต์ เบสเซนต์" รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ
สำนักข่าวซินหัวรายงานถ้อยแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการภาษีศุลกากรที่ไม่สมเหตุสมผลและดำเนินการฝ่ายเดียว ซึ่งทำลายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีอย่างรุนแรง รวมทั้งทำลายระเบียบเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งสร้างความท้าทายที่ร้ายแรงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ดังนั้น เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของตน จีนจึงใช้มาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาด
จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ฝ่ายสหรัฐฯ แสดงความเต็มใจที่จะหารือเรื่องภาษีศุลกากรและประเด็นที่เกี่ยวข้องผ่านช่องทางต่าง ๆ ซึ่งหลังจากประเมินข้อความต่าง ๆ ของสหรัฐฯ อย่างรอบคอบแล้ว จีนได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการเจรจากับฝ่ายสหรัฐฯ โดยคำนึงถึงความคาดหวังในระดับโลก ผลประโยชน์ของประเทศ และเสียงเรียกร้องจากภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภคของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจในสวิตเซอร์แลนด์ เหอจะเดินทางต่อไปยังฝรั่งเศสในระหว่างวันที่ 12-16 พฤษภาคม 2568 เพื่อเป็นประธานร่วมการประชุมเศรษฐกิจและการเงินระดับสูงจีน-ฝรั่งเศส ครั้งที่ 10
ที่มาข้อมูล : Bloomberg
ที่มารูปภาพ : Freepik canva