นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ของกระทรวงการคลังที่ร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผ่านมาตรการสินเชื่อต่าง ๆ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 - 22 พฤษภาคม 2568 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้ว 77,929 ราย มียอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 2,400.98 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินการ ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 จำนวน 2,406 ราย และมียอดอนุมัติเพิ่มขึ้น 53.02 ล้านบาท
นอกจากนี้ทางกระทรวงการคลัง ได้เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อยในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ไม่ถูกเอาเปรียบจากเจ้าหนี้นอกระบบที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด รวมทั้งยังเป็นช่องทางให้เจ้าหนี้นอกระบบสามารถเข้ามาให้บริการสินเชื่อในระบบอย่างถูกกฎหมายด้วย
สรุปข่าว
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ของกระทรวงการคลังที่ร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผ่านมาตรการสินเชื่อต่าง ๆ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 - 22 พฤษภาคม 2568 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้ว 77,929 ราย มียอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 2,400.98 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินการ ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 จำนวน 2,406 ราย และมียอดอนุมัติเพิ่มขึ้น 53.02 ล้านบาท
นอกจากนี้ทางกระทรวงการคลัง ได้เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อยในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ไม่ถูกเอาเปรียบจากเจ้าหนี้นอกระบบที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด รวมทั้งยังเป็นช่องทางให้เจ้าหนี้นอกระบบสามารถเข้ามาให้บริการสินเชื่อในระบบอย่างถูกกฎหมายด้วย
จากข้อมูลเดือน เมษายน 2568 รายงานว่า มีนิติบุคคล (บริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด) ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้ว 1,155 ราย ใน 75 จังหวัด และช่วงสิ้นเดือนมีนาคม 2568 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมทั้งสิ้น 5,081,240 บัญชี เป็นจำนวนเงินรวม 50,066.09 ล้านบาท โดยเป็นยอดสินเชื่อคงค้าง 393,010 บัญชี เป็นจำนวนเงิน 7,429.15 ล้านบาท
ทั้งนี้รัฐบาลยืนยันเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขหนี้นอกระบบควบคู่ไปกับมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบอย่างต่อเนื่อง มุ่งลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เพื่อให้ผู้เป็นหนี้มีโอกาสในชีวิตเพิ่มขึ้น จนสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน
