5 ปัจจัยทำให้ทองคำกำลังมา หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย

5 ปัจจัยทำให้ทองคำกำลังมา หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Gold Spot พุ่งทะลุระดับ 3,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือปรับขึ้นกว่า 2% ขณะที่ราคาทองคำในประเทศไทยกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 52,000 บาทต่อบาททองคำ ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนทั่วโลกที่แห่เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสถานการณ์เศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำดีดตัวแรงในรอบนี้มีด้วยกัน 5 ประการ ได้แก่ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาจีนว่าละเมิดข้อตกลงทางการค้าโดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ก่อนที่ทางการจีนจะออกมาตอบโต้ทันควันว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าว “ไม่มีมูลความจริง” และยืนยันจะปกป้องผลประโยชน์ของชาติอย่างถึงที่สุด

สรุปข่าว

ราคาทองคำทะยานขึ้นจาก 5 ปัจจัยเสี่ยง ทั้งความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ การตอบโต้ทางการเมือง ภาษีที่ยังผันผวน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แผ่วลง รวมถึงสัญญาณลดดอกเบี้ยของเฟด ขณะเดียวกันปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปก็ยังสร้างแรงกดดันซ้ำเติม ภาพรวมบ่งชี้ว่า “ทองคำ” ยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าจับตา โดยเฉพาะก่อนตัวเลขสำคัญอย่าง “การจ้างงานนอกภาคเกษตร” ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายนนี้

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Gold Spot พุ่งทะลุระดับ 3,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือปรับขึ้นกว่า 2% ขณะที่ราคาทองคำในประเทศไทยกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 52,000 บาทต่อบาททองคำ ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนทั่วโลกที่แห่เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสถานการณ์เศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำดีดตัวแรงในรอบนี้มีด้วยกัน 5 ประการ ได้แก่ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาจีนว่าละเมิดข้อตกลงทางการค้าโดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ก่อนที่ทางการจีนจะออกมาตอบโต้ทันควันว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าว “ไม่มีมูลความจริง” และยืนยันจะปกป้องผลประโยชน์ของชาติอย่างถึงที่สุด

นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีก็ยังเป็นปัจจัยกดดัน หลังจากทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% ขณะเดียวกันข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด รวมถึงตัวเลขนำเข้า-ส่งออกที่ชะลอลง ทำให้เกิดความคาดหวังว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้

แรงหนุนราคาทองคำยังมาจากการส่งสัญญาณของคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กรรมการเฟด ที่แสดงความเห็นว่าเศรษฐกิจอาจเริ่มเผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านภาษี ทำให้เฟดมีแนวโน้มต้องลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปี ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าหลุดระดับ 99 และเป็นผลบวกต่อราคาทองคำและโลหะมีค่าอื่น ๆ

นอกจากนี้ ความตึงเครียดในยูเครนก็กลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังเกิดการโจมตีตอบโต้ระหว่างยูเครนและรัสเซีย ขณะที่การเจรจาสันติภาพยังไม่มีความคืบหน้า ยิ่งตอกย้ำภาพรวมความไม่แน่นอนทั่วโลก ทำให้นักลงทุนทั่วโลกยังเลือก “ทองคำ” เป็นที่พักเงินในช่วงเสี่ยง

ที่มาข้อมูล : investing

ที่มารูปภาพ : canvas