วิเคราะห์ 3 สินทรัพย์: Bitcoin แนวโน้มเด่น - หุ้นไทยยังไม่น่าลงทุน - ทองคำผันผวนในกรอบ

ผู้ชนะตัวจริง: Bitcoin และ Crypto จ่อบูม

คุณนิพนธ์มองว่า ท่ามกลางภาวะที่ตลาดหุ้นและทองคำยังขาดปัจจัยขับเคลื่อนที่ชัดเจน สินทรัพย์ที่น่าจะโดดเด่นและดึงดูดเม็ดเงินที่เหลือจากตลาดอื่นได้มากที่สุดคือ Bitcoin และกลุ่มคริปโตเคอร์เรนซี

"มนุษย์ต้องหาอะไรเล่นเสมอ เมื่อหุ้นก็ไม่ได้ไปทั้งโลก ขึ้นๆ ลงๆ ทองก็ไซด์เวย์...ก็เหลือ Bitcoin ที่ไม่ต้องอาศัยปัจจัยอะไร" คุณนิพนธ์กล่าว

• กลยุทธ์ Bitcoin:

  • สำหรับผู้ที่ลงทุนมาตั้งแต่ระดับราคาต่ำกว่านี้ ($75,000) คำแนะนำคือ "ถือ" เพื่อรอจังหวะที่ราคา "ชู๊ตแรงๆ" แล้วจึงขายทำกำไร

  • สำหรับผู้ที่ยังไม่มีสถานะ การเข้าซื้อ ณ จุดนี้มีความเสี่ยงสูง ควรรับผิดชอบความเสี่ยงของตนเอง

• เป้าหมายทางเทคนิค: หากราคาไม่หลุดแนวรับสำคัญที่ $89,000 ก็มีโอกาสเห็น $150,000 ได้

ทองคำ: ไซด์เวย์ในกรอบ - กลยุทธ์สองฝั่ง

สำหรับทองคำ คุณนิพนธ์มองว่าได้จบรอบขาขึ้นรอบใหญ่ (จาก 2,900 ดอลลาร์ฯ) ไปแล้ว และกำลังเข้าสู่ช่วงของการปรับฐานในรูปแบบ Sideway หรือแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยม ไม่ขึ้นไม่ลงแรง

• กลยุทธ์ Gold Futures: สำหรับนักเทรดระยะสั้น กลยุทธ์คือ "เด้ง Short" (เปิดสถานะขายเมื่อราคามีการดีดตัวขึ้น) โดยมีจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่ $3,250

• กลยุทธ์ทองคำแท่ง: สำหรับนักลงทุนระยะยาว การซื้อทองคำแท่งยังคงทำได้เรื่อยๆ เพื่อเป็นการสะสมและป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของโลก แม้อาจมีความเสี่ยงขาดทุนระยะสั้น แต่สุดท้ายคาดว่าจะสามารถกลับไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้

หุ้นไทย: "ไม่รอด" - แนะหลีกเลี่ยงและ Short TFEX

คุณนิพนธ์ได้ให้มุมมองที่ชัดเจนและแข็งแกร่งต่อตลาดหุ้นไทยว่า "ยกเว้นหุ้นไทย ไม่รอด มันไม่รอดมานานแล้ว ก็ไม่รอดต่อไป" โดยมองว่าปัญหาไม่ได้มาจากปัจจัยภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้างภายในประเทศที่แก้ไขได้ยาก

• กลยุทธ์: แนะนำ "ช็อต ทีเฟค ต่อไป" (เปิดสถานะขายใน SET50 Index Futures)

• แนวรับ/จุดเด้ง: อาจจะเห็นการดีดตัวกลับที่แข็งแกร่งเมื่อดัชนีลงไปใกล้ระดับ 1,000 จุด แต่หลังจากนั้นก็มีโอกาสปรับตัวลงต่อ

น้ำมัน: Sideway - ข่าวสงครามแค่ระยะสั้น

ราคาน้ำมัน คุณนิพนธ์มองว่ายังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway เช่นกัน การปรับตัวขึ้นจากข่าวความขัดแย้งในตะวันออกกลางเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น และราคาน้ำมันไม่ได้ขึ้นไปอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานด้านอุปสงค์และอุปทานยังไม่สนับสนุนขาขึ้นที่แข็งแกร่ง