สวยหล่อแบบเกาหลีใต้ "K-Beauty" โตแซงหน้าอเมริกา ขึ้นแท่นเบอร์ 2 ตลาดเครื่องสำอางโลก

"K-Beauty" สู่ระดับสากล 


มาแรงที่สุดในระดับโลกตอนนี้ คือ เครื่องสำอางของเกาหลีใต้ ไม่ใช่แค่คนไทยที่นิยม อยากสวยหล่อเหมือนดาราเหมือนไอดอลเกาหลี แต่วันนี้ยอดการส่งออกเครื่องสำอางเกาหลีใต้ แซงหน้าสหรัฐอเมริกาไปแล้ว กลายเป็นเบอร์สองของโลก เป็นรองเพียงแค่พี่ใหญ่ฝรั่งเศสประเทศเดียว


กระแส K-beauty มาแรงไม่แผ่ว คนไทยเรารู้จักกันดี หลายคนใช้กันอยู่แล้ว ตั้งแต่คุชชั่นไปจนถึงน้ำตบ ส่วนหนึ่งมาจากอิทธิพลของ K -POP K - Drama ตั้งแต่ซีรีส์ไปจนถึงเพลงจากเกาหลีใต้ เราได้เห็นหน้าตาสวยๆหล่อๆของไอดอล และนักแสดงชั้นนำ ที่ต่างก็เป็นพรีเซนเตอร์สินค้าต่างๆ ในตลาดความงาม ตั้งแต่ของกินยันของใช้ ที่แฟนคลับก็อยากจะอุดหนุน  ยิ่งถ้าใครดูซีรีส์ น่าจะเข้าใจ และเห็นภาพได้ชัด


หลายครั้งที่กล้องตั้งใจจับภาพตอนที่นางเอกแต่งหน้าด้วยลิปติกของเกาหลียี่ห้อดัง หรือก่อนนอนและตอนเช้าต้องทาครีมตัวไหนบ้าง นางเอกก็ขยันทาให้ดู   รวมไปถึงสไตล์การแต่งหน้า ของคนเกาหลีใต้ กับสายฝอ หรือแบบตะวันตก แบบฝรั่งก็แตกต่างกัน ความหวาน ความใส เน้นเป็นธรรมดา ถือเป็นหัวใจหรือ Beauty Standard ของเกาหลี หลายคนดูแล้วก็อยากสวยอยากหล่อตามแบบฉบับนี้ แน่นอนว่าก็ต้องอยากใช้สินค้าของเกาหลีใต้เท่านั้น จะได้ถอดแบบออกมาเหมือนกัน  แม้กระทั่งผู้ชายเองสมัยนี้ก็มีการดูแลตัวเอง แต่งหน้าเป็นเรื่องปกติ เช่นเหล่าไอดอลหรือนักร้องของเกาหลีที่นิยมแต่งหน้าเขียนตา หรือทำสีผมให้ดูสดใส และทั้งหมดนี้มีสินค้าภายใต้แบรนด์เกาหลีรองรับอยู่ทุกตัว 


แต่ถามว่ากระแสเหล่านี้จะไปได้ไกลแค่ไหน หรือฮิตแค่ไทยเท่านั้น คำตอบ คือ ไปได้ไกลระดับโลก 


ข้อมูลจากทางการเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้  4 เดือนแรกของปี 2568  พุ่งแรงแซงหน้าสหรัฐอเมริกาได้เป็นครั้งแรก  และขึ้นแท่นกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากฝรั่งเศส


ข้อมูลของสมาคมการค้าระหว่างประเทศเกาหลีใต้ (KITA) ระบุว่า  ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2568 ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้ แตะ 3.61 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าสหรัฐฯ ซึ่งส่งออกได้ที่ 3.57 พันล้านดอลลาร์  แม้ตัวเลขจะห่างกันไม่มากนัก แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่เกาหลีใต้สามารถแซงหน้าสหรัฐฯ ได้สำเร็จในตลาดความงามโลก


ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 68  เกาหลีใต้ยังตามหลังสหรัฐฯ โดยมียอดส่งออกแตะ 2.58 พันล้านดอลลาร์  เทียบกับสหรัฐฯ ที่ 2.72 พันล้านดอลลาร์  ก่อนที่ยอดส่งออกของเกาหลีใต้จะพุ่งหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


หลายคนอาจจะคิดว่าเครื่องสำอางเกาหลีอาจจะขายได้แค่ในเอเชีย แต่ในความเป็นจริง สินค้าจากเกาหลีใต้กำลังมาแรงไปทั่วโลกแล้ว  โดยเฉพาะในตลาดใหม่อย่างยุโรปและตะวันออกกลาง  เช่น โปแลนด์ ไอร์แลนด์ เบลเยียม และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)


เจาะตัวเลขแค่ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้  ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้ไปยังโปแลนด์ รวมมูลค่าอยู่ที่ 111.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 121% เมื่อเทียบรายปี  ส่วนยอดส่งออกไปยัง UAE พุ่งขึ้น 74% แตะ 99.3 ล้านดอลลาร์ จาก 57 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว


เครื่องสำอางเกาหลีใต้ ปี 67 นิวไฮ ทะลุหมื่นล้านเหรียญ

 

เครื่องสำอางเกาหลีใต้ กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ปีที่แล้ว ทำสถิตินิวไฮ ส่งออกได้กว่าหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  และโตที่สุดในกลุ่มท้อปทรีของโลก  ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้เองก็เร่งเครื่อง ส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง


รายงานจากสมาคมการค้าระหว่างประเทศเกาหลีใต้  ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว (2567) เกาหลีใต้ส่งออกเครื่องสำอางรวม 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์ โต 20.3% เมื่อเทียบรายปี แซงหน้าเยอรมนีขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของโลก  ส่วนอันดับหนึ่ง คือ ฝรั่งเศส ที่ขยายตัวเพียง 6.3%  และอันดับสอง คือสหรัฐฯ  โตที่ 1.1% จะเห็นได้ว่าการเติบโตมากกว่าหลายประเทศชั้นนำ การันตีถึงความแกร่งของกระแส K Beauty  ขณะเดียวกันรัฐบาลของเกาหลีใต้ก็มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางการของเกาหลีใต้


กระทรวงความปลอดภัยอาหารและยาของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า  ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของเกาหลีใต้ที่มีมูลค่าทะลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567  นับเป็นหลักชัยสำคัญของอุตสาหกรรมความงามเกาหลี


รายงานระบุว่า ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 20.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.02 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567  หรือคิดเป็นเงินไทยคือมากกว่า 3.4 แสนล้านบาท  เพิ่มขึ้น 20.6% จากปีก่อน   มาจากแรงหนุนของ K Culture หรือกระแสวัฒนธรรมเกาหลี ที่ได้กำลังเติบโตได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง



สรุปข่าว

เครื่องสำอางเกาหลีใต้กำลังมาแรงทั่วโลก โดยล่าสุดสามารถแซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นเป็นผู้ส่งออกอันดับ 2 ของโลก รองจากฝรั่งเศส ด้วยมูลค่ากว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ใน 4 เดือนแรกของปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากกระแส K-beauty, K-pop และ K-drama ที่ปลุกความนิยมในสินค้าความงามจากเกาหลีใต้ไปทั่วโลก ตั้งแต่ไทย ยุโรป ตะวันออกกลาง ไปจนถึงแอฟริกา แบรนด์เกาหลีพัฒนาสินค้าให้หลากหลาย รองรับทุกโทนผิว และเจาะตลาดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"K-Beauty" สู่ระดับสากล 


มาแรงที่สุดในระดับโลกตอนนี้ คือ เครื่องสำอางของเกาหลีใต้ ไม่ใช่แค่คนไทยที่นิยม อยากสวยหล่อเหมือนดาราเหมือนไอดอลเกาหลี แต่วันนี้ยอดการส่งออกเครื่องสำอางเกาหลีใต้ แซงหน้าสหรัฐอเมริกาไปแล้ว กลายเป็นเบอร์สองของโลก เป็นรองเพียงแค่พี่ใหญ่ฝรั่งเศสประเทศเดียว


กระแส K-beauty มาแรงไม่แผ่ว คนไทยเรารู้จักกันดี หลายคนใช้กันอยู่แล้ว ตั้งแต่คุชชั่นไปจนถึงน้ำตบ ส่วนหนึ่งมาจากอิทธิพลของ K -POP K - Drama ตั้งแต่ซีรีส์ไปจนถึงเพลงจากเกาหลีใต้ เราได้เห็นหน้าตาสวยๆหล่อๆของไอดอล และนักแสดงชั้นนำ ที่ต่างก็เป็นพรีเซนเตอร์สินค้าต่างๆ ในตลาดความงาม ตั้งแต่ของกินยันของใช้ ที่แฟนคลับก็อยากจะอุดหนุน  ยิ่งถ้าใครดูซีรีส์ น่าจะเข้าใจ และเห็นภาพได้ชัด


หลายครั้งที่กล้องตั้งใจจับภาพตอนที่นางเอกแต่งหน้าด้วยลิปติกของเกาหลียี่ห้อดัง หรือก่อนนอนและตอนเช้าต้องทาครีมตัวไหนบ้าง นางเอกก็ขยันทาให้ดู   รวมไปถึงสไตล์การแต่งหน้า ของคนเกาหลีใต้ กับสายฝอ หรือแบบตะวันตก แบบฝรั่งก็แตกต่างกัน ความหวาน ความใส เน้นเป็นธรรมดา ถือเป็นหัวใจหรือ Beauty Standard ของเกาหลี หลายคนดูแล้วก็อยากสวยอยากหล่อตามแบบฉบับนี้ แน่นอนว่าก็ต้องอยากใช้สินค้าของเกาหลีใต้เท่านั้น จะได้ถอดแบบออกมาเหมือนกัน  แม้กระทั่งผู้ชายเองสมัยนี้ก็มีการดูแลตัวเอง แต่งหน้าเป็นเรื่องปกติ เช่นเหล่าไอดอลหรือนักร้องของเกาหลีที่นิยมแต่งหน้าเขียนตา หรือทำสีผมให้ดูสดใส และทั้งหมดนี้มีสินค้าภายใต้แบรนด์เกาหลีรองรับอยู่ทุกตัว 


แต่ถามว่ากระแสเหล่านี้จะไปได้ไกลแค่ไหน หรือฮิตแค่ไทยเท่านั้น คำตอบ คือ ไปได้ไกลระดับโลก 


ข้อมูลจากทางการเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้  4 เดือนแรกของปี 2568  พุ่งแรงแซงหน้าสหรัฐอเมริกาได้เป็นครั้งแรก  และขึ้นแท่นกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากฝรั่งเศส


ข้อมูลของสมาคมการค้าระหว่างประเทศเกาหลีใต้ (KITA) ระบุว่า  ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2568 ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้ แตะ 3.61 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าสหรัฐฯ ซึ่งส่งออกได้ที่ 3.57 พันล้านดอลลาร์  แม้ตัวเลขจะห่างกันไม่มากนัก แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่เกาหลีใต้สามารถแซงหน้าสหรัฐฯ ได้สำเร็จในตลาดความงามโลก


ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 68  เกาหลีใต้ยังตามหลังสหรัฐฯ โดยมียอดส่งออกแตะ 2.58 พันล้านดอลลาร์  เทียบกับสหรัฐฯ ที่ 2.72 พันล้านดอลลาร์  ก่อนที่ยอดส่งออกของเกาหลีใต้จะพุ่งหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


หลายคนอาจจะคิดว่าเครื่องสำอางเกาหลีอาจจะขายได้แค่ในเอเชีย แต่ในความเป็นจริง สินค้าจากเกาหลีใต้กำลังมาแรงไปทั่วโลกแล้ว  โดยเฉพาะในตลาดใหม่อย่างยุโรปและตะวันออกกลาง  เช่น โปแลนด์ ไอร์แลนด์ เบลเยียม และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)


เจาะตัวเลขแค่ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้  ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้ไปยังโปแลนด์ รวมมูลค่าอยู่ที่ 111.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 121% เมื่อเทียบรายปี  ส่วนยอดส่งออกไปยัง UAE พุ่งขึ้น 74% แตะ 99.3 ล้านดอลลาร์ จาก 57 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว


เครื่องสำอางเกาหลีใต้ ปี 67 นิวไฮ ทะลุหมื่นล้านเหรียญ

 

เครื่องสำอางเกาหลีใต้ กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ปีที่แล้ว ทำสถิตินิวไฮ ส่งออกได้กว่าหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  และโตที่สุดในกลุ่มท้อปทรีของโลก  ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้เองก็เร่งเครื่อง ส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง


รายงานจากสมาคมการค้าระหว่างประเทศเกาหลีใต้  ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว (2567) เกาหลีใต้ส่งออกเครื่องสำอางรวม 1.03 หมื่นล้านดอลลาร์ โต 20.3% เมื่อเทียบรายปี แซงหน้าเยอรมนีขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของโลก  ส่วนอันดับหนึ่ง คือ ฝรั่งเศส ที่ขยายตัวเพียง 6.3%  และอันดับสอง คือสหรัฐฯ  โตที่ 1.1% จะเห็นได้ว่าการเติบโตมากกว่าหลายประเทศชั้นนำ การันตีถึงความแกร่งของกระแส K Beauty  ขณะเดียวกันรัฐบาลของเกาหลีใต้ก็มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางการของเกาหลีใต้


กระทรวงความปลอดภัยอาหารและยาของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า  ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของเกาหลีใต้ที่มีมูลค่าทะลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567  นับเป็นหลักชัยสำคัญของอุตสาหกรรมความงามเกาหลี


รายงานระบุว่า ยอดส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 20.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.02 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567  หรือคิดเป็นเงินไทยคือมากกว่า 3.4 แสนล้านบาท  เพิ่มขึ้น 20.6% จากปีก่อน   มาจากแรงหนุนของ K Culture หรือกระแสวัฒนธรรมเกาหลี ที่ได้กำลังเติบโตได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง



สินค้า Skin Care ได้รับความนิยม - ส่งออกพุ่งสูงสุด


สินค้าที่ขายดี ส่งออกเยอะที่สุด คือ กลุ่มของ Skin Care ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขั้นพื้นฐานมีมูลค่าการส่งออกสูงสุดที่ 7,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ( 265,458 ล้านบาท)  ตามด้วยเครื่องสำอางแต่งหน้า ที่ 1,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ( 46,723 ล้านบาท)  และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่ 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  (16,266 ล้านบาท)  ซึ่งกลุ่มของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุด  คือยอดเพิ่มขึ้นถึง 30.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี


แล้วถามว่าประเทศนำเข้าเยอะสุด หรือชอบสินค้าจากเกาหลีมากสุด พบว่ามีประเทศจีนเป็นเบอร์หนึ่ง  จีนนำเข้าเครื่องสำอางเกาหลีใต้มากที่สุดด้วยมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์  ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา 1.9 พันล้านดอลลาร์  และญี่ปุ่น 1 พันล้านดอลลาร์


นอกจากนี้ยังมีฮ่องกง เวียดนาม รัสเซีย และไต้หวัน  รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ที่ติดอันดับ 10 อันดับแรก  แซงหน้ามาเลเซีย


เจ้าหน้าที่ในอุตสาหกรรมดังกล่าวให้ข้อมูลว่า  ผู้บริโภคในสหรัฐให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว  ซึ่งมีส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพ  ส่วนผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นสนใจเครื่องสำอางที่มีสีสันเฉพาะ  และบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย


ขณะที่สื่อของเกาหลีใต้ สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า โอ ยูคยอง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความปลอดภัยอาหารและยา ระบุว่า  

“รัฐบาลจะเสริมสร้างความร่วมมือกับบรรดาประเทศคู่ค้า เพื่อช่วยให้บริษัทในประเทศขยายการส่งออกเครื่องสำอางต่อไปได้  พร้อมทั้งช่วยให้บริษัทเหล่านี้สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยในสหรัฐอเมริกาและจีน”


ชัยชนะของเกาหลีใต้ปาดหน้าอเมริกาได้สำเร็จ แถมลูกค้าหลักยังเป็นอเมริกาอีกด้วย  เพราะเครื่องสำอางของเกาหลีใต้มีการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง  ตั้งใจขยายกลุ่มลูกค้าให้หลากหลายและสากลมากขึ้น 


อ้างอิงจากรายงานของ BBC ระบุว่า เครื่องสำอางของเกาหลีใต้ มีการพัฒนาสินค้าให้หลากหลายรองรับความแตกต่างกันทั่วโลกมากขึ้น อย่างที่คนไทยเราชินตากันว่า ความงามแบบเกาหลี คือผิวที่ขาวใส หรือหน้าตาแบบคนเอเชียดั้งเดิมเท่านั้น   แต่ถ้าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปขายยังต่างประเทศ ที่มาตรฐานความงามแตกต่างออกไป จะขายได้อย่างไร


ก่อนหน้านี้ไม่นานในโลกโซเชียลเกิดกระแสไวรัล เมื่อมีอินฟลูเอนเซอร์ต่างชาติ ทำคลิปรีวิวบอกว่าไม่สามารถหาเครื่องสำอางเกาหลีที่มีสีเหมาะสมกับผิวของเธอได้ ตั้งแต่รองพื้น ลิปสติก ไปถึงบลัชออนที่ปัดแก้ม แต่ล่าสุดสิ่งนั้นกำลังเปลี่ยนไป  เพราะแบรนด์ของเกาหลีใต้ได้ออกเฉดสีที่หลากหลายมากขึ้นแล้ว และโปรโมทขับเคลื่อนโดยเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ที่มากันรีวิวให้เห็นว่าใช้ได้จริง และสวยสมใจ  และเกิดกระแสในทางบวกว่าแบรนด์เหล่านี้ใส่ใจลูกค้า 


K-Beauty ขยายตลาดใหม่ สินค้ารองรับความหลากหลาย 


BBC รายงานว่าเครื่องสำอางเกาหลีได้รับความนิยมในทวีปแอฟริกา  เช่น เคนยาและไนจีเรีย  ความสำเร็จส่วนใหญ่มาจาก K Culure อุตสาหกรรมบันเทิงต่างๆ ที่มีอิทธิพลกับแฟนคลับและคนที่ติดตาม ร้านเครื่องสำอางแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของเคนยา บอกว่ารองพื้นคุชชั่นของเกาหลีเป็นหนึ่งในสินค้าขายดีที่สุดของร้าน ขณะที่ผู้ใช้หลายชอบที่ราคาจับต้องได้ และมีประสิทธิภาพที่ดี 


ขณะที่โคลมาร์ (Kolmar) เป็นผู้ผลิตเครื่องสำอาง (Original Design Manufacturer - ODM) ให้กับแบรนด์ความงาม มากกว่า 3,700 แบรนด์ในเกาหลีใต้  บอกว่าบริษัทได้ทำการวิจัยกับกลุ่มเป้าหมายจากแอฟริกา อเมริกา แปซิฟิก และภูมิภาคอื่น ๆ  มีการจับคู่เฉดสีกับโทนสีผิวที่หลากหลาย  และพัฒนาเฉดสีที่หลากหลายขึ้นเพื่อรองรับโทนสีผิวเข้ม


ที่สำคัญ คือ การเติบโตของตลาดทวีปแอฟริกานั้นน่าสนใจ จากข้อมูลของนักวิเคราะห์ตลาด สตาติสตา (Statista) คาดว่า รายได้ในตลาดความงามและการดูแลส่วนบุคคลของแอฟริกา จะเติบโตจาก 66,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2024 พุ่งเป็น 85,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2027


นับว่าเป็นปรากฎการณ์ของเครื่องสำอางเกาหลีใต้ที่กำลังมาแรง ขึ้นแท่นเป็นตัวท็อปเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำของตลาดโลกได้สำเร็จและสวยงาม ที่น่าสนใจมาก คือ นี่อาจจะกลายเป็นเทรนด์ของความงามแบบเอเชีย หรือ ตะวันออกที่มาแรงมากขึ้น แข่งกับมหาอำนาจตะวันอย่างอเมริกา หรือยุโรป และที่สำคัญกว่านั้นนี่คือผลส่วนหนึ่งจาก Soft Power จาก K Culture ด้วย ซึ่งหลายประเทศ แม้กระทั่งประเทศไทยก็อยากจะถอดความสำเร็จเช่นกัน