
รัฐบาล"อนุทิน" ปัดฝุ่น "คนละครึ่ง" กระตุ้นเศรษฐกิจ
จ่อขยายสิทธิพิเศษ หนุนคนเสียภาษี เพิ่มวงเงิน ลุ้นบัตรคนจนได้สิทธิด้วย
สร้างเสียงฮือฮา และกระแสตอบอย่างดี หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากพรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาประกาศว่ารัฐบาลชุดนี้จะนำโครงการ "คนละครึ่ง" กลับมาใช้อีกครั้งเพื่อกระตุ้น โดยคาดว่าจะดำเนินการได้เร็วที่สุดภายในเดือนตุลาคม 2568 นี้ หรือภายใน 2 สัปดาห์หลังจากแถลงนโยบาย
อย่างไรก็ตามกลับมาของคนละครึ่งครั้งนี้ นายอนุทินเปิดเผยว่า จะมีการยกเครื่องด้วยการเพิ่มเงื่อนไขหลายอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น การให้ประโยชน์กับกลุ่มคนที่อยู่ในระบบภาษี ซึ่งมีอยู่จำนวนทั้งหมดประมาณ 11 ล้านคน โดยกลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้และยื่นแบบภาษี จะได้สิทธิ 60 : 40 หรือรัฐช่วยจ่าย 60% ประชาชนออก 40% เพื่อจูงใจเข้าสู่ระบบมากขึ้น ขณะที่กลุ่มคนทั่วไป (นอกระบบภาษี) ได้สิทธิ 50:50 หรือคนละครึ่งแบบเดิม คือ รัฐช่วย 50% ประชาชนออก 50% ขณะที่วิธีการใช้จ่ายคาดว่าจะใช้ระบบเดิม คือ ผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" แต่ต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลอีกครั้ง
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าพร้อมนำระบบคนละครึ่งกลับมาใช้ ทั้งนี้ ในด้านงบประมาณ หากเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป จะใช้เงินงบประมาณ 2569 จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 25,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการ หากโครงการมีขนาดใหญ่ที่ต้องการขยายวงเงินให้ครอบคลุมมากขึ้น อาจต้องพิจารณาดึงงบประมาณจากงบกลางรายการอื่นมาสมทบ
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า สำหรับเงื่อนไขใหม่ ๆ ที่จะคาดว่าจะได้เห็นในการทำโครงการ "คนละครึ่ง" อาจจะมีการพิจารณากลุ่มของคนที่จะใช้สิทธิ์ จึงอยากขยายให้กว้างขึ้น เช่น รอบที่แล้วเริ่มต้นอายุ 18 ปี หรือกลุ่มเปราะบางที่มีบัตรสวัสดิการ ไม่มีสิทธิ์ได้ รวมไปถึงอาจจะมีการเพิ่มวงเงินต่อวันจาก 150 บาทเป็น 200 บาท ส่วนข้อห้ามของการใช้สิทธิ์ น่าจะยังคงเป็นไปตามเดิม เช่น ห้ามซื้อสุรา บุหรี่ สลากกินแบ่งรัฐบาล หรือห้ามจ่ายค่าบริการ ส่วนจะมีการควบคุมสินค้าเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ทางทีมเศรษฐกิจอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเติม
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการนำโครงการคนละครึ่งกลับมาอีกครั้งว่าจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4/68 หากมีการเริ่มใช้โครงการ "คนละครึ่ง" ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างน้อย 70,000-100,000 ล้านบาท ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง โตได้ 2-3% ซึ่งเมื่อรวมทั้งปีแล้ว ทำให้มีโอกาสที่จะเห็นเศรษฐกิจไทยปีนี้ โตได้ไม่ต่ำกว่า 2.5%
สรุปข่าว
รัฐบาล"อนุทิน" ปัดฝุ่น "คนละครึ่ง" กระตุ้นเศรษฐกิจ
จ่อขยายสิทธิพิเศษ หนุนคนเสียภาษี เพิ่มวงเงิน ลุ้นบัตรคนจนได้สิทธิด้วย
สร้างเสียงฮือฮา และกระแสตอบอย่างดี หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากพรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาประกาศว่ารัฐบาลชุดนี้จะนำโครงการ "คนละครึ่ง" กลับมาใช้อีกครั้งเพื่อกระตุ้น โดยคาดว่าจะดำเนินการได้เร็วที่สุดภายในเดือนตุลาคม 2568 นี้ หรือภายใน 2 สัปดาห์หลังจากแถลงนโยบาย
อย่างไรก็ตามกลับมาของคนละครึ่งครั้งนี้ นายอนุทินเปิดเผยว่า จะมีการยกเครื่องด้วยการเพิ่มเงื่อนไขหลายอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น การให้ประโยชน์กับกลุ่มคนที่อยู่ในระบบภาษี ซึ่งมีอยู่จำนวนทั้งหมดประมาณ 11 ล้านคน โดยกลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้และยื่นแบบภาษี จะได้สิทธิ 60 : 40 หรือรัฐช่วยจ่าย 60% ประชาชนออก 40% เพื่อจูงใจเข้าสู่ระบบมากขึ้น ขณะที่กลุ่มคนทั่วไป (นอกระบบภาษี) ได้สิทธิ 50:50 หรือคนละครึ่งแบบเดิม คือ รัฐช่วย 50% ประชาชนออก 50% ขณะที่วิธีการใช้จ่ายคาดว่าจะใช้ระบบเดิม คือ ผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" แต่ต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลอีกครั้ง
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าพร้อมนำระบบคนละครึ่งกลับมาใช้ ทั้งนี้ ในด้านงบประมาณ หากเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป จะใช้เงินงบประมาณ 2569 จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 25,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการ หากโครงการมีขนาดใหญ่ที่ต้องการขยายวงเงินให้ครอบคลุมมากขึ้น อาจต้องพิจารณาดึงงบประมาณจากงบกลางรายการอื่นมาสมทบ
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า สำหรับเงื่อนไขใหม่ ๆ ที่จะคาดว่าจะได้เห็นในการทำโครงการ "คนละครึ่ง" อาจจะมีการพิจารณากลุ่มของคนที่จะใช้สิทธิ์ จึงอยากขยายให้กว้างขึ้น เช่น รอบที่แล้วเริ่มต้นอายุ 18 ปี หรือกลุ่มเปราะบางที่มีบัตรสวัสดิการ ไม่มีสิทธิ์ได้ รวมไปถึงอาจจะมีการเพิ่มวงเงินต่อวันจาก 150 บาทเป็น 200 บาท ส่วนข้อห้ามของการใช้สิทธิ์ น่าจะยังคงเป็นไปตามเดิม เช่น ห้ามซื้อสุรา บุหรี่ สลากกินแบ่งรัฐบาล หรือห้ามจ่ายค่าบริการ ส่วนจะมีการควบคุมสินค้าเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ทางทีมเศรษฐกิจอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเติม
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการนำโครงการคนละครึ่งกลับมาอีกครั้งว่าจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4/68 หากมีการเริ่มใช้โครงการ "คนละครึ่ง" ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างน้อย 70,000-100,000 ล้านบาท ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง โตได้ 2-3% ซึ่งเมื่อรวมทั้งปีแล้ว ทำให้มีโอกาสที่จะเห็นเศรษฐกิจไทยปีนี้ โตได้ไม่ต่ำกว่า 2.5%

"คนละครึ่ง" เวอร์ชั่นใหม่ ยุครัฐบาลอนุทิน
ระยะเวลาโครงการ : คาดว่าจะเริ่มได้ ตุลาคม 2568 (หลังแถลงนโยบาย 2 สัปดาห์)
งบประมาณ : คลังระบุมีงบพร้อมใช้เบื้องต้น 25,000 ล้านบาท
วิธีร่วมโครงการ :
"ประชาชน" ติดตั้งแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เพื่อใช้จ่าย
"ร้านค้า" ติดตั้งแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" เพื่อรับชำระเงินจากการขายสินค้า
วัตถุประสงค์ : โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น ภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป
เงื่อนไข "เดิม"
- มีบัตรประจำตัวประชาชน เป็นบุคคลสัญชาติไทย
- อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน
- ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
- ใช้จ่ายไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
เพิ่มเงื่อนไข "ใหม่" (อยู่ระหว่างพิจารณา )
- ให้สิทธิประชาชนคนไทยทุกคน 50:50
- ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีหรือยื่นแบบ 60:40
- ปรับเพิ่มยอดใช้จ่ายเป็น 200 บาทต่อคนต่อวัน
- คนมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐร่วมได้
- อายุต่ำกว่า 18 ร่วมได้
- “อนุทิน” รับคำอวยพรจากนายกฯ สิงคโปร์ พร้อมย้ำแนวทางความร่วมมือ 5 ด้าน
- หนุนทำ "คนละครึ่ง" 2 เฟส ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจได้แรง-เร็ว คาดครึ่งปีหลังเงินสะพัดแสนล้าน
- คนละครึ่ง 2568 เช็กใครเข้าเกณฑ์ 11 ล้านคน รัฐช่วยจ่าย 60%
- "คนละครึ่ง" เริ่มได้ทันทีใน 2 สัปดาห์ หลังแถลงนโนบาย ลุ้นเพิ่มวงเงินเป็น 200 บาทต่อวัน
- ภท. ถกเอกชน เดินหน้า “คนละครึ่ง เวอร์ชั่นใหม่” ไร้เก็บภาษีย้อนหลัง
ที่มาข้อมูล : พรรคภูมิใจไทย กระทรวงการคลัง มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ที่มารูปภาพ : TNN canva
