"ยาแรง" กระตุ้นเศรษฐกิจ ปัดฝุ่น "คนละครึ่ง" เพิ่มจีดีพี ใน 4 เดือน

โครงการคนละครึ่ง 2025 กำลังเกิดขึ้นแล้ว ภายใต้การนำรัฐบาล ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นการปัดฝุ่นโครงการเก่าเอาทำใหม่ แต่อัพเกรดยกเครื่องปรับเปลี่ยนเงื่อนไขบางอย่าง เพื่อให้ทันสมัยเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น การให้สิทธิ 60:40 สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี ที่คาดว่ามีอยู่ 11 ล้านคน ส่วนคนทั่วไป 50:50 เหมือนเดิม 

สรุปข่าว

ทำไมรัฐบาลของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรีคนใหม่ล่าสุด ต้องเอา "คนละครึ่ง" กลับมา โครงการที่คนไทยรู้จักกันดีจากช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน ภายใต้กรอบเวลาเพียงแค่ 4 เดือนก่อนเลือกตั้งใหม่ จะทำได้จริงหรือไม่

โครงการคนละครึ่ง 2025 กำลังเกิดขึ้นแล้ว ภายใต้การนำรัฐบาล ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นการปัดฝุ่นโครงการเก่าเอาทำใหม่ แต่อัพเกรดยกเครื่องปรับเปลี่ยนเงื่อนไขบางอย่าง เพื่อให้ทันสมัยเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น การให้สิทธิ 60:40 สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี ที่คาดว่ามีอยู่ 11 ล้านคน ส่วนคนทั่วไป 50:50 เหมือนเดิม 

ทำไม โครงการ "คนละครึ่ง" 2025 จึงเปรียบเสมือน "ยาแรง" และเป็นความหวังสำหรับทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่เพียงภาครัฐ แต่ยังหมายถึงเอกชน และประชาชนในทุกระดับ คำตอบเป็นเพราะว่าที่ผ่านมา คนละครึ่งในยุคแรก ได้สร้างผลงานไว้อย่างดีเยี่ยม ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จ  สร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นรูปธรรม 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย โดยนายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า รัฐบาลชุดใหม่มีระยะเวลาในการทำงานสั้น ดังนั้นนโยบายที่อยากเห็น คือ นโยบายที่เริ่มทำได้รวดเร็ว เช่น โครงการคนละครึ่ง ที่เป็นโครงการที่เคยทำมาแล้ว และได้สร้างผลต่อเศรษฐกิจประมาณ 1 เท่าจากเม็ดเงินที่ลงไป  

ที่มาข้อมูล : TNN WEALTH

ที่มารูปภาพ : CANVA