ทองคำทำ All Time High ต่อเนื่อง! MTS Gold ขยับเป้าใหม่ 4,000 เหรียญ-ทองไทยลุ้น 60,000 บาท

นายแพทย์ กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 29 กันยายน 2568 ถึงการพุ่งขึ้นของราคาทองคำในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ เป็นผลโดยตรงจากตัวเลขเงินเฟ้อภาคบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ที่ออกมาทรงตัว ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้

"เป้าหมาย 3,800 ดอลลาร์ที่เราเคยมองไว้ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน มันมาถึงเร็วกว่าที่คาดไว้มาก เพราะตลาดเก็งกำไรข่าวการลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างหนัก ตอนนี้เราจึงต้องขยับเป้าหมายขึ้นไปที่ 4,000 ดอลลาร์ ซึ่งน่าจะไม่ยากแล้ว และถ้าถึงวันนั้น ทองไทยก็คงจะได้เห็นบริเวณ 60,000 บาทแน่นอน" นายแพทย์กฤชรัตน์กล่าว

สรุปข่าว

ราคาทองคำทะยานสร้างสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งทะลุ 3,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่งผลให้ MTS Gold แม่ทองสุก ประกาศปรับเป้าหมายราคาทองคำปี 2568 ขึ้นไปที่ 4,000 ดอลลาร์ และราคาทองไทยมีโอกาสเห็น 60,000 บาทต่อบาททองคำ พร้อมแนะกลยุทธ์สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีทองในมือ หรือ "ตกรถ" ให้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดและหาจังหวะเข้าซื้อ

นายแพทย์ กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 29 กันยายน 2568 ถึงการพุ่งขึ้นของราคาทองคำในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ เป็นผลโดยตรงจากตัวเลขเงินเฟ้อภาคบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ที่ออกมาทรงตัว ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้

"เป้าหมาย 3,800 ดอลลาร์ที่เราเคยมองไว้ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน มันมาถึงเร็วกว่าที่คาดไว้มาก เพราะตลาดเก็งกำไรข่าวการลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างหนัก ตอนนี้เราจึงต้องขยับเป้าหมายขึ้นไปที่ 4,000 ดอลลาร์ ซึ่งน่าจะไม่ยากแล้ว และถ้าถึงวันนั้น ทองไทยก็คงจะได้เห็นบริเวณ 60,000 บาทแน่นอน" นายแพทย์กฤชรัตน์กล่าว

สำหรับนักลงทุนที่ขายทำกำไรไปก่อนหน้า หรือยังไม่ได้เข้าซื้อเพราะยึดติดกับราคาเดิมจน "ตกรถ" นายแพทย์กฤชรัตน์ได้แนะนำให้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดและกลยุทธ์การลงทุน ดังนี้

  • สำหรับนักเทรดระยะสั้น: ต้องอาศัยความเร็วในการตัดสินใจ โดยใช้จังหวะที่ราคาย่อตัวเล็กน้อย เช่น บริเวณ 3,800 หรือ 3,790 ดอลลาร์ เป็นจุดเข้าซื้อ เพราะในตลาดที่เป็นขาขึ้นรุนแรง (Super Bull Market) การย่อตัวมักจะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น


  • สำหรับนักลงทุนระยะยาว:

-ทยอยออม (DCA): ใช้วิธีซื้อสะสมด้วยเงินจำนวนน้อยๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น ซื้อทุกวัน โดยไม่ต้องสนใจราคา เพื่อลดกำแพงทางจิตใจและสร้างวินัยในการลงทุน

-แบ่งไม้เข้าซื้อ: หากมีเงินลงทุนก้อนใหญ่ ให้แบ่งเงินออกเป็นหลายส่วน (เช่น 3 ส่วน หรือ 5 ส่วน) แล้วทยอยเข้าซื้อในจังหวะที่ราคาย่อตัว เพื่อเฉลี่ยต้นทุนและลดความเสี่ยงจากการเข้าซื้อทั้งหมดในครั้งเดียว

นายแพทย์กฤชรัตน์ยืนยันว่า การปรับขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้ "ไม่ใช่ภาวะฟองสบู่" เพราะมีปัจจัยพื้นฐานเรื่องทิศทางดอกเบี้ยเป็นตัวขับเคลื่อน แต่เป็นการขึ้นที่รวดเร็วและรุนแรง ซึ่งจะนำมาซึ่งความผันผวนที่สูงขึ้น

"เราจะได้เห็นการเหวี่ยงของราคาครั้งละ 40, 50 หรือแม้กระทั่ง 100 เหรียญบ่อยขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของตลาดขาขึ้น นักลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงตรงนี้ให้ได้ หากรับความเสี่ยงสูงไม่ได้ การซื้อแบบออมสะสม (Saving) คือวิธีที่ดีที่สุด"