เช็คที่นี่ "เที่ยวดีมีคืน" 2568 เที่ยวในอำเภอของเมืองหลัก แต่ได้ลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า อำเภออะไรบ้าง ?

"เที่ยวดีมีคืน" รัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ขยายสิทธิ เพิ่มอำเภอของจังหวัดหลัก ได้สิทธิลดหย่อนภาษีเทียบเท่า "เมืองรอง"
นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยล่าสุด กรมสรรพากร ได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 456) เพื่อขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่บุคคลธรรมดาที่เดินทางท่องเที่ยวใน “อำเภอของจังหวัดเมืองหลัก” ที่ได้รับสิทธิเทียบเท่า “เมืองรอง” ซึ่งสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวมาหักลดหย่อนภาษีได้ในอัตราเท่ากับเมืองรอง
โดยพื้นที่ที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี ครอบคลุม “อำเภอในเมืองท่องเที่ยวหลัก” หลายจังหวัด เช่น
– กระบี่ (เขาพนม, ปลายพระยา, ลำทับ)
– เชียงใหม่ (แม่แตง, แม่วาง, ดอยสะเก็ด, สันทราย, สารภี, อมก๋อย ฯลฯ)
– นครราชสีมา (วังน้ำเขียว, ปักธงชัย, พิมาย, สีคิ้ว, ด่านขุนทด, เสิงสาง ฯลฯ)
– ชลบุรี (บ้านบึง, พานทอง, พนัสนิคม, หนองใหญ่ ฯลฯ)
– สุราษฎร์ธานี (กาญจนดิษฐ์, ดอนสัก, พุนพิน, ไชยา, วิภาวดี ฯลฯ)
รวมถึง กาญจนบุรี, เพชรบุรี, พังงา, ระยอง, พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, ขอนแก่น, ฉะเชิงเทรา และสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เพิ่มเติมที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและบริการรองรับครบถ้วน
รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า มาตรการดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม-15 ธันวาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิท่องเที่ยวในช่วงปลายปีได้คุ้มค่ามากขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค และกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น
พร้อมกันนี้ย้ำว่า รัฐบาลเชื่อมั่นว่า การขยายสิทธิลดหย่อนภาษีในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศ เพิ่มการจับจ่ายในธุรกิจบริการรายย่อย และเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สรุปข่าว
"เที่ยวดีมีคืน" รัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ขยายสิทธิ เพิ่มอำเภอของจังหวัดหลัก ได้สิทธิลดหย่อนภาษีเทียบเท่า "เมืองรอง"
นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยล่าสุด กรมสรรพากร ได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 456) เพื่อขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่บุคคลธรรมดาที่เดินทางท่องเที่ยวใน “อำเภอของจังหวัดเมืองหลัก” ที่ได้รับสิทธิเทียบเท่า “เมืองรอง” ซึ่งสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวมาหักลดหย่อนภาษีได้ในอัตราเท่ากับเมืองรอง
โดยพื้นที่ที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี ครอบคลุม “อำเภอในเมืองท่องเที่ยวหลัก” หลายจังหวัด เช่น
– กระบี่ (เขาพนม, ปลายพระยา, ลำทับ)
– เชียงใหม่ (แม่แตง, แม่วาง, ดอยสะเก็ด, สันทราย, สารภี, อมก๋อย ฯลฯ)
– นครราชสีมา (วังน้ำเขียว, ปักธงชัย, พิมาย, สีคิ้ว, ด่านขุนทด, เสิงสาง ฯลฯ)
– ชลบุรี (บ้านบึง, พานทอง, พนัสนิคม, หนองใหญ่ ฯลฯ)
– สุราษฎร์ธานี (กาญจนดิษฐ์, ดอนสัก, พุนพิน, ไชยา, วิภาวดี ฯลฯ)
รวมถึง กาญจนบุรี, เพชรบุรี, พังงา, ระยอง, พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, ขอนแก่น, ฉะเชิงเทรา และสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เพิ่มเติมที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและบริการรองรับครบถ้วน
รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า มาตรการดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม-15 ธันวาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิท่องเที่ยวในช่วงปลายปีได้คุ้มค่ามากขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค และกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น
พร้อมกันนี้ย้ำว่า รัฐบาลเชื่อมั่นว่า การขยายสิทธิลดหย่อนภาษีในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศ เพิ่มการจับจ่ายในธุรกิจบริการรายย่อย และเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน
เช็คที่นี่ “เที่ยวดีมีคืน 2568” มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศไทยช่วงปลายปี 2568
ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 30,000 บาท ให้สิทธิลดหย่อนสำหรับการท่องเที่ยวเมืองรอง 1.5 เท่า ส่วนเมืองหลัก 1 เท่า
ช่วงเวลา : เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม- 15 ธันวาคม 2568 โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะต้องเกิดขึ้นและชำระเงิน ภายในช่วงเวลาดังกล่าวเท่านั้น ไม่ต้องลงทะเบียนโครงการล่วงหน้า
พื้นที่ : ครอบคลุมการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวรอง 55 จังหวัด และบางอำเภอในอีก 15 จังหวัด โดยมาตรการนี้มุ่งหวังสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวให้คึกคักช่วงสิ้นปี พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นทั่วประเทศให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษี : สำหรับผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดา เท่านั้น (ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคล) และต้องขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป จากผู้ประกอบการตามเงื่อนไข และเก็บรักษาใบกำกับภาษี (ทั้งแบบกระดาษและอิเล็กทรอนิกส์) ไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นนำไปยื่นลดหย่อนภาษี ในช่วงต้นปี 2569 (สำหรับการยื่นภาษีเงินได้ปี 2568)
เมืองหลัก (จังหวัดอื่น ๆ นอกจากเมืองรอง) ลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่าของที่จ่ายจริง ไม่เกิน 20,000 บาท
เมืองรอง (55 จังหวัด หรือบางอำเภอใน 15 จังหวัดหลัก) ลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า ของที่จ่ายจริง สูงสุด 30,000 บาท
หลักเกณฑ์การขอใบกำกับภาษี
วงเงิน 10,000 บาทแรก = สามารถใช้ได้ทั้ง ใบกำกับภาษีแบบกระดาษ หรือ e-Tax Invoice (ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์)
วงเงิน 10,000 บาทถัดไป = ต้องใช้เฉพาะใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เท่านั้น
"ค่าใช้จ่าย" ที่ใช้ลดหย่อนได้
ค่าโรงแรม
โฮมสเตย์ไทย
ที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม
ค่าบริการของร้านอาหารที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
"คลัง" เปิดรายชื่อ 55 จังหวัด ท่องเที่ยว "เมืองรอง" ลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า
กระทรวงการคลัง ได้เปิดรายชื่อ 55 จังหวัดท่องเที่ยวรอง (และพื้นที่บางอำเภอใน 15 จังหวัด) ที่ผู้เดินทางจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า โดยกระจายไปในทุกภูมิภาค ดังนี้
ภาคเหนือ (16 จังหวัด)
กำแพงเพชร
เชียงราย
แพร่
แม่ฮ่องสอน
ตาก
นครสวรรค์
ลำปาง
น่าน
เพชรบูรณ์
ลำพูน
สุโขทัย
พะเยา
พิษณุโลก
อุทัยธานี
อุตรดิตถ์
พิจิตร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) 18 จังหวัด
กาฬสินธุ์
เลย
ชัยภูมิ
ศรีสะเกษ
นครพนม
สกลนคร
บึงกาฬ
สุรินทร์
บุรีรัมย์
หนองคาย
มหาสารคาม
หนองบัวลำภู
มุกดาหาร
อำนาจเจริญ
ยโสธร
อุดรธานี
ร้อยเอ็ด
อุบลราชธานี
ภาคกลาง (7 จังหวัด)
ชัยนาท
ลพบุรี
สิงห์บุรี
อ่างทอง
สุพรรณบุรี
สมุทรสงคราม
ราชบุรี
ภาคตะวันออก (5 จังหวัด)
สระแก้ว
จันทบุรี
ปราจีนบุรี
ตราด
นครนายก
ภาคใต้ (9 จังหวัด)
พัทลุง
ระนอง
ชุมพร
ปัตตานี
ตรัง
สตูล
ยะลา
นครศรีธรรมราช
นราธิวาส
ที่มาข้อมูล : รัฐบาลไทย
ที่มารูปภาพ : Imagen 4.0
