"อาหารเกาหลี" ฟีเวอร์ ไทยขึ้นแท่นขายดีเบอร์ 1 อาเซียน รัฐบาลดัน K-Culture ลุย "ส่งออก" ตลาดโลก

Share on Line Share on Facebook Share on X

คนไทยชอบกินอาหารเกาหลี ตลาดอาหารเกาหลีใต้ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง  ข้อมูลจากทางสำนักงานส่งเสริมการค้า และการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย (Korea Trade-Investment Promotion Agency หรือ KOTRA Bangkok (หรือโคทรา กรุงเทพฯ)  ระบุว่ากลุ่มผู้บริโภคหลักของอาหารเกาหลีในไทย คือ วัยรุ่น วัยทำงาน และครอบครัวในเมืองใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าอาหารเกาหลีเป็นอาหารสุขภาพ ทันสมัย และเชื่อมโยงกับกระแสวัฒนธรรมโลก 

สรุปข่าว

อาหารเกาหลีฟีเวอร์ อาหารเกาหลีขายดีในเมืองไทย โตแกร่งมาแรงที่สุดในอาเซียน นอกจากความอร่อยที่หลายคนติดใจ ต้องยอมรับว่ามาจากอิทธิพลของละครซีรีส์ต่างที่เราดูกันด้วย เรียกว่าได้เป็นมาจาก Soft Power จาก K Culture ของจริง และไม่ใช่แค่เมืองไทย และไปไกลระดับโลก

คนไทยชอบกินอาหารเกาหลี ตลาดอาหารเกาหลีใต้ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง  ข้อมูลจากทางสำนักงานส่งเสริมการค้า และการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย (Korea Trade-Investment Promotion Agency หรือ KOTRA Bangkok (หรือโคทรา กรุงเทพฯ)  ระบุว่ากลุ่มผู้บริโภคหลักของอาหารเกาหลีในไทย คือ วัยรุ่น วัยทำงาน และครอบครัวในเมืองใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าอาหารเกาหลีเป็นอาหารสุขภาพ ทันสมัย และเชื่อมโยงกับกระแสวัฒนธรรมโลก 

โดยสินค้า K-Food ที่ได้รับความนิยม เติบโตสูงสุดในไทยและอาเซียน แบ่งเป็น 5 หมวดหลัก  ได้แก่

1.บะหมี่และอาหารพร้อมรับประทาน

2.ซอสและเครื่องปรุง เช่น โคชูจังและซอสต๊อกบกกี

3.เครื่องดื่มสุขภาพ เช่น คอลลาเจน โสม และโปรไบโอติก

4.ขนมและของหวานเกาหลี

5.อาหารหมัก เช่น กิมจิ

เป้าหมายสำคัญของ KOTRA จะผลักดันการเติบโตของ K-Food โดยรัฐบาลเกาหลีได้ตั้งเป้าจะต้องเพิ่มมูลค่าการส่งออก K-Food  ให้แตะกว่า 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2573 หรือเทียบเท่ามูลค่าการค้าระหว่างไทย-เกาหลีใต้ ในปีที่ผ่านมา ผ่านการเร่งกำลังโปรโมต K-Food อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเอกชนในประเทศ ทั้งผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีในธุรกิจอาหารออกสู่เวทีการค้าต่างๆ โดยเฉพาะอาเซียน ซึ่งปัจจุบันนี้มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ไทยเปรียบเป็น “ประตู” หรือ Gate Way สำคัญในการขยายตลาดอาหารเกาหลีใต้สู่อาเซียน

ที่มาข้อมูล : TNN WEALTH

ที่มารูปภาพ : CANVA