หุ้นที่ลงทุนได้ปลายปี 2025 กับคุณสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด (มหาชน)
โดยเน้นประเด็นสำคัญและหุ้นที่น่าสนใจ ดังนี้ครับ
1. ภาพรวมตลาดช่วงปลายปี 2025
- ตลาดเอเชีย: ได้รับผลกระทบจากการลดดอกเบี้ยของเฟด ทำให้ตลาดญี่ปุ่นและไต้หวันอ่อนตัวลง แต่ตลาดอินเดียและฮ่องกงยังแข็งแกร่ง
- ตลาดหุ้นไทย: ปัจจัยทางการเมืองคลี่คลาย ช่วงวันที่ 22-26 ธ.ค. ตลาดจะเบาบางเพราะต่างชาติหยุดคริสต์มาส
- แนวโน้มดัชนี: หากยืนเหนือ 1,260-1,270 ได้ภายในกลางเดือน มีลุ้นเห็นดัชนีปลายปีที่ 1,300-1,350 จุด แต่ถ้าไม่ผ่าน อาจปิดแค่แถว 1,300 จุด
2. หุ้นและกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ
- กลุ่มท่องเที่ยว & ขนส่ง: ยังเป็นกลุ่มนำตลาด หุ้นเด่นคือ MINT, CENTEL, ERW, AOT (ถ้าย่อลงมาแถว 50 บาท น่าสะสม ลุ้นไป 55 บาท)
- กลุ่มโรงพยาบาล: BDMS (เป้า 32-33 บาท) และ BH (บำรุงราษฎร์ ราคาแถว 166 บาท น่าสนใจ เป้า 170 บาท แนวรับ 165 บาท)
- กลุ่มค้าปลีก/พาณิชย์: CPALL น่าสนใจที่ราคาแถว 43.25 บาท (เป้า 45 บาท) และ MEGA ที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวดี
- กลุ่มธนาคาร: แบงก์ใหญ่เริ่มตึงตัว แต่แบงก์เล็กอย่าง TTB น่าสนใจ (รับ 0.90-0.95 บาท ต้าน 2.00 บาท) และ TCAP
- กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์: DELTA ถ้าย่อมา 180 บาท น่าแบ่งซื้อสะสม
กลุ่มอื่นๆ: TASCO (ทิปโก้แอสฟัลท์) และ TOA ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
สรุปข่าว
หุ้นที่ลงทุนได้ปลายปี 2025 กับคุณสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด (มหาชน)
โดยเน้นประเด็นสำคัญและหุ้นที่น่าสนใจ ดังนี้ครับ
1. ภาพรวมตลาดช่วงปลายปี 2025
- ตลาดเอเชีย: ได้รับผลกระทบจากการลดดอกเบี้ยของเฟด ทำให้ตลาดญี่ปุ่นและไต้หวันอ่อนตัวลง แต่ตลาดอินเดียและฮ่องกงยังแข็งแกร่ง
- ตลาดหุ้นไทย: ปัจจัยทางการเมืองคลี่คลาย ช่วงวันที่ 22-26 ธ.ค. ตลาดจะเบาบางเพราะต่างชาติหยุดคริสต์มาส
- แนวโน้มดัชนี: หากยืนเหนือ 1,260-1,270 ได้ภายในกลางเดือน มีลุ้นเห็นดัชนีปลายปีที่ 1,300-1,350 จุด แต่ถ้าไม่ผ่าน อาจปิดแค่แถว 1,300 จุด
2. หุ้นและกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ
- กลุ่มท่องเที่ยว & ขนส่ง: ยังเป็นกลุ่มนำตลาด หุ้นเด่นคือ MINT, CENTEL, ERW, AOT (ถ้าย่อลงมาแถว 50 บาท น่าสะสม ลุ้นไป 55 บาท)
- กลุ่มโรงพยาบาล: BDMS (เป้า 32-33 บาท) และ BH (บำรุงราษฎร์ ราคาแถว 166 บาท น่าสนใจ เป้า 170 บาท แนวรับ 165 บาท)
- กลุ่มค้าปลีก/พาณิชย์: CPALL น่าสนใจที่ราคาแถว 43.25 บาท (เป้า 45 บาท) และ MEGA ที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวดี
- กลุ่มธนาคาร: แบงก์ใหญ่เริ่มตึงตัว แต่แบงก์เล็กอย่าง TTB น่าสนใจ (รับ 0.90-0.95 บาท ต้าน 2.00 บาท) และ TCAP
- กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์: DELTA ถ้าย่อมา 180 บาท น่าแบ่งซื้อสะสม
กลุ่มอื่นๆ: TASCO (ทิปโก้แอสฟัลท์) และ TOA ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
3. กลุ่มที่ควรระวัง
- ปิโตรเคมี: ยังไม่น่าเข้าไปยุ่ง เช่น IVL, PTTGC, SCC (ปูนใหญ่)
- ลีสซิ่ง/การเงิน: ระวัง KTC ที่ราคายังแกว่งตัว
- กลุ่มที่จีนเข้ามาตีตลาด: ต้องระวังกลุ่มพาณิชย์และอาหารบางตัว เพราะจีนเข้ามาแข่งขันเยอะ
4. แนวโน้มปีหน้า (2026)
- ครึ่งปีแรก: ยังทรงตัว อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ในช่วงไตรมาส 1
- ครึ่งปีหลัง: คาดว่าจะดีขึ้นชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป ปัจจัยหนุนจากการเมืองที่นิ่งขึ้นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ภาพรวม: ปีหน้าทิศทางน่าจะดีกว่าปีนี้ โดยเฉพาะหลังจากเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
สรุป: ปลายปีนี้เน้นหุ้นท่องเที่ยว โรงพยาบาล และสื่อสาร เป็นหลัก ส่วนปีหน้าให้รอจังหวะลงทุนหนักในช่วงครึ่งปีหลังครับ
- เฟดลดดอกเบี้ย ดันทองพุ่ง ลุ้นนิวไฮได้ไหม ?
- หุ้นไทยวันนี้ 8 ธันวาคม 2568 ลดลง 12.38 จุด แรงขาย DELTA–แบงก์กดดัน
- โบรกคาดหุ้นไทยฟื้นตัว! แรงหนุนเฟด-กนง.หั่นดอกเบี้ย ชูหุ้นปันผลสูง-มีปัจจัยบวกเฉพาะ
- หุ้นไทยวันนี้ 4 ธันวาคม 2568 ปิดลบ 1.05 จุด แกว่งไซด์เวย์ จับตาการเมืองสัปดาห์หน้า
- ส่องหุ้นไทยส่งท้ายปี 68 ลุ้นฟื้นตัวหาก "เฟด" ลดดอกเบี้ย มองหุ้น "ปันผล" แบงก์-สื่อสารเด่น
ที่มาข้อมูล : TNN WEALTH
ที่มารูปภาพ : CANVA
