LDP ดึงฝ่ายค้านร่วมรัฐบาล

มีรายงานว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพี (LDP) ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชิเงรุ อิชิบะ กำลังซุ่มเจรจาตั้งพันธมิตรใหม่เมื่อวานนี้ (29 ตุลาคม) หลังสูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภาจากความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการยืนยันเมื่อวานนี้ว่า พรรคแอลดีพี ซึ่งบริหารญี่ปุ่นมาต่อเนื่องแทบจะไม่เว้นวรรคตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 และพรคโคเมอิโตะ พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้ครองเสียงข้างมากในการเลือกตั้งครั้งนี้  

อิชิบะ แถลงในวันจันทร์ว่า เขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้ผลการเลือกตั้งของพรรคออกมาเลวร้ายที่สุดในรอบ 15 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เขาจะเป็นหัวหน้ารัฐบาลเสียงข้างน้อย เนื่องจากจนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้พิจารณาที่จะดึงพรรคการเมืองอื่นมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมให้มีเสียงเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากสื่อเมื่อวานนี้ ระบุว่า พรรคแอลดีพี กำลังเจรจากับพรรคฝ่ายค้านหลายพรรคเกี่ยวกับการร่วมรัฐบาลผสม เพื่อให้แน่ใจว่า อิชิบะสามารถผลักดันให้มีการออกกฎหมายได้อย่างราบรื่น และยังได้อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปด้วย

ทั้งนี้ เมื่อรวมคะแนนกับพรรคโคเมอิโตะแล้ว พรรคแอลดีพี ได้ 215 ที่นั่งในรัฐสภาผู้แทนราษฎรที่มีสมาชิก 465 ที่นั่ง ไม่ได้ครองเสียงข้างมาก คือ 233 ที่นั่ง ซึ่งอาจทำให้พรรคแอลดีพีต้องหาพรรคร่วมรัฐบาลพรรคที่ 3 โดยหนึ่งในพรรคที่อาจถูกดึงเข้าร่วม คือพรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน หรือดีพีพี (DPP) ที่มีที่นั่งทั้งหมด 28 ที่นั่ง ซึ่งจะผลักดันให้พรรคร่วมรัฐบาลแอลดีพี-โคเมอิโตะ ได้ที่นั่งมากกว่า 233 ที่นั่งเพื่อให้ได้เสียงข้างมาก

หนังสือพิมพ์โยมิอูริ รายงานว่า อิชิบะตัดสินใจที่จะแสวงหาพันธมิตร "บางส่วน" กับพรรคดีพีพี พรรคสายกลาง ซึ่งมีนโยบายให้เงินอุดหนุนเพื่อลดค่าพลังงานด้วย ขณะที่ ยูอิชิโร ทามากิ หัวหน้าพรรคดีพีพี กล่าวเมื่อวานนี้ว่า หากมีการขอเจรจาระหว่างหัวหน้าพรรค ก็ไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธ แม้ว่าจะขึ้นอยู่กับว่าเราจะหารือเรื่องอะไรก็ตาม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กำลังมีการเจรจาระหว่างเลขาธิการพรรค และมีการติดต่อสื่อสารกันหลายช่องทาง แต่ยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่เป็นรูปธรรมเกิดขึ้น ส่วนเจ้าหน้าที่ของพารคแอลดีพี ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว